วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2567

โป๊กเกอร์ กับ Game Theory

โป๊กเกอร์ กับ Game Theory
เกมโป๊กเกอร์มีพัฒนาการตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา จากในยุคแรกที่นักโป๊กเกอร์เน้นจิตวิทยาและการอ่านใจโดยสังเกตจากพฤติกรรม (Read poker Tells) แปรเปลี่ยนไปเป็นการใช้คณิตศาสตร์ความน่าจะเป็นในการเล่น (Probability)
ยุคถัดมาเป็นเรื่องของการผสมผสานคณิตศาสตร์เข้ากับการอ่านใจที่เรียกกันว่า Exploitative Play ยกตัวอย่างเช่น ปกติแล้วช่วง Preflop คนมักจะ raise กันในช่วง 3BB ปรากฏว่าคู่แข่งเราดัน raise ที่ 5BB นักเล่นแบบ Exploitative Play จะเริ่มจับพฤติกรรมได้แล้วว่า คนนี้ต้องมีไพ่ที่แข็งมากๆ (AA, KK, QQ หรือ AK อะไรประมาณนี้)

แล้วหลังเปิด Flop สมมติว่าไพ่ออกมาเป็น 4♠️ 8♣️ 3♦️ ปรากฏว่าคู่แข่งดัน raise น้อยลง หรือแค่ call ตอนนี้คุณ exploit ได้แทบจะทันทีเลยว่า เค้าไม่น่ามีไพ่คู่แน่ๆ
เมื่อคาดเดา Hand Range ของคู่แข่งได้ ที่เหลือ คุณก็เลือกที่จะเล่นได้หลากหลายขึ้นทันที เช่น ถ้าคุณมี K♥️ 8♥️ คุณก็สามารถเลือกที่จะโจมตีด้วยการ raise ที่ทำให้ Pot Odd หนักเกินกว่าที่คู่ต่อสู้จะกล้าเสี่ยง call ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่มีอะไรในมือ

ดังนั้นการคาดการณ์ Hand Range ของคู่แข่งคือความได้เปรียบอย่างมหาศาล

แต่ Exploitative Play ก็เป็นกลยุทธ์การเล่นที่มีจุดอ่อน นั่นคือเมื่อผู้เล่นโจมตีคู่แข่งด้วยจุดอ่อนของคู่แข่งทุกครั้งที่มีโอกาส ในทางกลับกันย่อมทำให้คู่แข่งจับพฤติกรรมของผู้เล่นได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ เหมือนกับว่าถ้าคุณเล่นเป่ายิ้งฉุบแล้ว exploit ได้ว่าคู่แข่งออกค้อนบ่อยเป็นพิเศษ คุณก็จะออกกระดาษมากเป็นพิเศษ
ซึ่งการออกกระดาษมากเป็นพิเศษของคุณ ในทางกลับกันก็จะทำให้คู่แข่งสังเกตได้ ดังนั้นเค้าก็จะพยายามออกกรรไกรมากขึ้น ทำให้พฤติกรรมที่เค้าเคยออกค้อนบ่อยๆ นั้นเปลี่ยนไป
หัวใจสำคัญของวิวัฒนาการในการเล่นโป๊กเกอร์ในยุคหลังนี้จึงเป็นแนวคิดการแก้ปัญหาของ Exploitative Play นั่นคือการใช้ Game Theory เข้ามาเสริม
แนวคิดหลักๆ ของ Game Theory นั้นตรงข้ามกับ Exploitative Play นั่นคือ การพยายามสร้างกลยุทธ์ที่ไม่เปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้ exploit พฤติกรรมของเราได้
แต่หลายคนก็ยังสงสัยว่า อ้าว แล้วไอ้ที่ว่ามานี่ มันเกี่ยวกับ Game Theory ยังไง..? ผมจะมาเล่าแนวคิดพื้นฐานของ Game Theory ให้ฟังกันครับ

ทฤษฏีเกม (Game Theory) คืออะไร


ทฤษฏีเกม (Game Theory) เป็นการจำลองสถานการณ์ทางกลยุทธ์ ซึ่งความสำเร็จในการตัดสินใจของผู้เล่นเกมขึ้นอยู่กับทางเลือกของผู้เล่นคนอื่น เป้าหมายก็คือหาทางได้รับผลตอบแทนให้ได้มากที่สุดจากกติกาของเกมนั้นๆ
ทฤษฎีเกมมีการใช้ในทางสังคมศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมืองระหว่างประเทศ (สงครามเย็นเป็นผลลัพธ์ที่เด่นชัดมากของทฤษฏีเกมที่รัสเซียกับอเมริกาใช้คานอำนาจซึ่งกันและกัน)
ผมจะยกตัวอย่างให้ฟังแบบง่ายๆ ด้วยตัวอย่างคลาสสิกที่ชื่อว่า Prisoners’ Dilemma
สมมติว่า ตู่ และติ๊ก เป็นโจรสองคนที่ถูกจับกรณีปล้นฆ่าชิงทรัพย์ ตำรวจจับตู่และติ๊กได้ หลักฐานชัดเจนว่าคนใดคนหนึ่งที่เป็นฆาตกร
ตำรวจจับแยกทั้งสองคนไปอยู่คนละห้องสอบสวน และกำหนดโทษดังนี้
ถ้าตู่และติ๊กต่างเงียบ ตำรวจจะไม่มีหลักฐานเอาผิด ทั้งคู่จะติดคุกแค่ 1 ปี
แต่ถ้าคนใดคนหนึ่งเงียบ แต่อีกคนหนึ่งกลับทรยศด้วยโยนความผิดให้อีกฝ่าย คนที่เงียบจะต้องติดคุก 10 ปี ส่วนคนที่โยนความผิดจะรอดพ้นคดีไปได้ไม่ต้องติดคุก
แต่ถ้าต่างฝ่ายต่างโยนความผิดให้อีกฝ่าย ทั้งคู่จะต้องติดคุกคนละ 3 ปี
ถ้าคุณเป็นตู่ คุณมีทางเลือกอย่างไรบ้างครับ..?
แน่นอนว่าสิ่งที่ดีที่สุดที่จะเป็นไปได้สำหรับทั้งคู่ก็คือ ต่างฝ่ายต่างเงียบ เพราะพวกคุณจะติดคุกกันเพียงแค่หนึ่งปีก่อนจะออกมาปล้นฆ่าประชาชนได้ใหม่อีกรอบ
แต่คำถามคือคุณไว้ใจติ๊กได้แค่ไหน เพราะถ้าคุณเงียบ แต่ติ๊กดันหักหลังแล้วโยนความผิดให้คุณเข้า คุณจะต้องติดคุก 10 ปีทันที โดยติ๊กเดินลอยชายออกจากคุกแบบชิลล์ๆ
ดังนั้น ถ้าคิดแบบปลอดภัยที่สุดในกรณีที่คุณไม่เชื่อใจติ๊กแล้ว สุดท้ายคุณจะตัดสินใจเลือกที่จะโยนความผิดให้ติ้ก เพราะในทางที่ดีที่สุด ทั้งคู่จะติดคุกแค่ 3 ปี แต่ถ้าโชคดี ติ๊กดันเงียบ คุณอาจจะฟลุ๊ครอดคุกไปได้แบบไม่คาดคิดก็เป็นได้
ทางเลือกที่ดีที่สุดที่คุณจะเงียบทั้งคู่ เรียกกันว่ากลยุทธ์เด่น (Optimal Strategy) ครับ คือกลยุทธ์เด่น เป็นสิ่งที่ผู้เล่นทุกฝ่ายจะได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในเกมนั้นๆ (คือติดคุกแค่ 1 ปี)
แต่สิ่งนี้มักจะไม่เกินขึ้น เพราะคุณไม่ไว้ใจกัน ในทฤษฏีเกมแบบไม่มีการสมคบคิด ผู้เล่นทุกคนไม่ใช่มิตร ต่างฝ่ายต่างต้องการหาผลตอบแทนที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองเสมอ
จึงเป็นที่มาของการใส่ร้ายฝ่ายตรงข้ามทั้งคู่ ณ จุดนี้การโยนความผิดแม้ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด แต่เป็นทางออกที่ปลอดภัยที่สุดที่เป็นไปได้ เรียกกันว่าจุดดุลยภาพของแนช (Nash’s Equilibrium) ซึ่งตั้งตามกฏของศาสตราจารย์ John Nash นักคณิตศาสตร์ผู้ล่วงลับผู้ต่อยอดทฤษฏีเกมจนได้รับการยอมรับไปทั่วโลก (ลองดูชีวประวัติของ John Nash ได้จากภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่ได้รางวัลออสการ์ชื่อ A Beautiful Mind)
หัวใจของ Nash’s Equilibrium คือกลยุทธ์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนสูงสุด แต่เป็นกลยุทธ์ที่ปลอดภัยที่สุด นั่นคือผลตอบแทนของคุณไม่ได้ขึ้นกับทางเลือกของคู่ต่อสู้
แต่ผมเล่ามาตั้งนาน แล้วทฤษฏีเกมนี้มันไปเกี่ยวอะไรกับเกมโป๊กเกอร์ล่ะ..?
หัวใจสำคัญอยู่ตรงนี้ครับ เนื่องจากทั้งตู่และติ๊กไม่มีข้อมูลของกันและกัน เนื่องจากอยู่คนละห้อง แปลว่าไม่สามารถ exploit พฤติกรรมของฝ่ายตรงข้ามได้เลย สิ่งที่พวกเขาเลือก คือ เลือกทางที่ปลอดภัยไว้ก่อน นั่นก็คือ การโยนความผิดให้อีกฝ่าย
ซึ่งผมบอกไปแล้วว่ามันคือ Nash’s Equilibrium ซึ่งไม่ไช่กลยุทธ์ที่ได้ reward สูงสุดแน่นอน มันเป็นเพียงกลยุทธ์ที่ปลอดภัยที่สุดในกรณีที่คุณไม่สามารถ exploit ฝ่ายตรงข้ามได้
ถ้าคุณเล่นโป๊กเกอร์โดยใช้ Nash’s Equilibrium นั่นคือ การเลือกกลยุทธ์ที่ทำให้ฝ่ายตรงข้าม exploit คุณไม่ได้ และไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเดินเกมแบบไหน จะไม่ทำให้คุณเสียเปรียบ ในระยะยาวคุณจะไม่มีทางแพ้ไม่ว่าคู่ต่อสู้ของคุณจะเลือกกลยุทธ์แบบไหนก็ตาม แต่คุณจะไม่มีทางทำกำไรได้ดีแน่
การเลือกกลยุทธ์แบบ Nash’s Equilibrium เป็นการเล่นเกมรับ ที่จะการันตีว่าคุณจะไม่หมดตัว ถูกเรียกกันในวงการโป๊กเกอร์ว่า Game Theory Optimal (GTO)

เปลี่ยนจากการเล่นเชิงรับ (GTO) ไปสู่การเล่นเชิงรุก (Exploitative Play)

แต่หลังจากที่คุณปกป้องเงินของคุณได้แล้ว สิ่งที่ต้องทำในขั้นต่อไปคือ การเร่งทำกำไรให้ได้มากขึ้น นั่นคือการปรับเปลี่ยนจากการเล่นเชิงรับ (GTO) ไปสู่การเล่นเชิงรุก (Exploitative Play) แต่จะต้องเป็นการเล่นเชิงรุก ที่ไม่เปิดช่องให้ฝ่ายตรงข้าม exploit ตนเองได้ (ซึ่งเป็นไปไม่ได้ในทางคณิตศาสตร์ แต่มนุษย์ไม่ใช่จักรกล จึงเป็นไปได้ที่เราสามารถเล่นเชิงรุก โดยที่ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถ exploit พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของเราได้)
ดังนั้นสิ่งที่นักโป๊กเกอร์มืออาชีพแนะนำก็คือ คุณต้องเริ่มต้นด้วยการสร้าง baseline บนกลยุทธ์แบบ GTO ก่อน แล้วค่อยๆ หาทาง exploit พฤติกรรมของคู่แข่ง เมื่อคุณจับทางคู่แข่งได้ จะต้องค่อยๆ ปรับ baseline มาโจมตีคู่แข่งด้วย Exploitative Play แบบที่ไม่ให้คู่แข่งรู้ตัว (เหมือนกรณีการเล่นเป่ายิ่งฉุบ ด้วยการออกกระดาษมากขึ้นเล็กน้อย หลังจาก exploit ได้ว่าคู่แข่งชอบออกค้อน)
ยกตัวอย่างเช่น ทุกๆ การเล่นที่คุณจะมีโอกาส bluff ได้ baseline ของคุณในกรณีที่จะ bluff คือ 50% ในระยะยาวจะทำให้คู่ต่อสู้ เดาไม่ถูกว่า คุณ bluff หรือคุณมีของ แต่ถ้าคุณเริ่มสังเกตพฤติกรรมของคู่แข่งได้ ว่าเค้าเป็นพวกเล่นปลอดภัยมากๆ คือถ้าไพ่ไม่ดีจริงๆ เค้าจะหมอบเสมอ เมื่อคุณรู้แบบนั้น คุณควรจะเริ่มที่จะเพิ่มสัดส่วนการ bluff ของคุณจาก 50% อาจจะเพิ่มเป็น 60%-70% นี่คือการเริ่มเล่นแบบ Exploitative Play มากกว่าที่จะยืนกลยุทธ์ GTO
ซึ่งถ้าเลือกใช้ Exploitative Play ได้ถูกต้อง ในระยะยาวคุณก็จะสามารถทำกำไรได้เร็วกว่าการเลือกใช้แต่กลยุทธ์​แบบ Nash’s Equilibrium แต่อย่าลืมว่า หากคุณเลือกแต่จะโจมตีสุดแรงด้วย Exploitative Play ในทางตรงข้าม มันจะทำให้คู่แข่ง exploit พฤติกรรมของคุณได้ และจะกลับเป็นดาบที่วนกลับมาแทงคุณเอง
ในทางกลับกัน เวลาคุณเล่นเกมรับ คุณก็จำเป็นจะต้องให้ false information ให้กับคู่แข่งที่พยายาม exploit คุณ เหมือนกับว่าคุณเป็นติ้ก ที่แกล้งส่ง signal ให้ตู่ว่า เฮ้ย เงียบๆ กันทั้งคู่นะเว้ย จะได้ติดคุกแค่ 1 ปี
ถ้าตู่รับ signal นั้นมาแล้วเชื่อ เลือกที่จะเงียบ คุณก็สามารถจู่โจมด้วยการโยนความผิดให้ตู่ คุณก็เดินออกจากคุกสบายๆ ปล่อยตู่ติดคุก 10 ปีไป
โป๊กเกอร์ก็เช่นเดียวกัน ถ้าคุณหลอกคู่แข่งเรื่อง hand range ของคุณได้ คือการให้เค้าเลือกใช้ Exploitative Play ทั้งๆ ที่มี false information ในระยะสั้น อาจจะมีเรื่องความโชคดีโชคร้ายเข้ามาเกี่ยวบ้าง แต่ด้วย law of large number ในระยะยาว นักเล่นที่ใช้ Game Theory และ Exploitative Play ผสมผสานกันได้อย่างดี exploit คู่ต่อสู้ได้เก่งกว่า หลอกได้เนียนกว่า จะชนะเสมอ
♠️♥️♣️♦️♠️♥️♣️♦️♠️♥️♣️♦️♠️♥️♣️♦️
ในปี 2015 นักวิจัยจาก University of Alberta ได้ออกแบบหุ่นยนต์โป๊กเกอร์ที่แข่งแบบ head-up โดยสามารถถอดสมการการเล่นแบบ GTO ที่สมบูรณ์แบบได้
นั่นหมายถึงการเอาหุ่นสองตัวมาแข่งกันในระยะยาวแล้วจะได้เสียกันแบบประมาณ 50% คือ หุ่นยนต์สมบูรณ์แบบทั้งสองตัวจะไม่มีวันแพ้ แต่ก็ไม่มีวันชนะ
แต่ถ้าเอาหุ่นยนต์หนึ่งตัวมาแข่ง head-up กับมนุษย์ที่เป็นมือใหม่ หุ่นยนต์ก็จะชนะมนุษย์คนนั้นได้ในที่สุด (แต่จะใช้เวลานานมากกว่าที่นักโป๊กเกอร์มืออาชีพจะเอาชนะมือใหม่คนเดียวกัน นั่นเพราะนักโป๊กเกอร์มืออาชีพนั้นใช้ทั้ง GTO และ Exploitative Play จะทำให้สามารถโจมตีจุดอ่อนของมือใหม่ได้เร็วและรุนแรง จนสุดท้ายมือใหม่ก็จะหมดตัวเร็วกว่าที่สู้กับหุ่นยนต์)
=======================================

อ่านหนังสือมาเยอะแต่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก


รวม 3 หลักสูตร Online ในคอรสเดียว เรียนจบวิเคราะห์หุ้นได้ทุกตัวในตลาด


✅เเจาะงบราย sector + ประเมินมูลค่า + แกะงบทุกตัวในตลาด(ปีละครั้ง) และสรุปงบ ทุกไตรมาส
✅เรียนOnlineผ่านวิดิโอในfacebookกลุ่มปิด ความยาวกว่า 60 ชั่วโมง
✅ดูได้ตลอดชีพ ไม่มีลบคลิป และไลฟอัพเดทเนื้อหาให้ทันสมัยตลอดเวลา
✅สงสัยถามได้ตลอดเวลา

☀เรียนแล้วได้อะไร☀


✅ดูการ เกิดขึ้นตั้งอยู่และถดถอย ของธุรกิจผ่านงบการเงิน
✅แต่ละช่วงเศรษฐกิจ sector ไหนไป sector ไหนมา และเครื่องมือดูแบบ real time
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่มการเงิน คุณภาพลูกหนี้ดูตรงไหน
✅กลุ่มธุรกิจบริการ การเติบโต จุดคุ้มทุนดูอย่างไร
✅โรงแรม สื่อสาร ค้าปลีก
✅การวิเคราะห์ธุรกิจผลิต เทคนิคดูกำลังการผลิตของโรงงาน เมื่อไรจะต้องขยายโรงงานใหม่
✅ประสิทธิภาพโรงงานเป็นอย่างไร ใครดีใครด้อย เผยชัดๆ
✅การวิเคราะห์ธุรกิจ ซื้อมาขายไป สิ้นค้าค้างสต็อก เก็บเงินไม่ได้ดูอย่างไร
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่มรับเหมา
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์ แบบไวๆ จะโอนได้เมื่อไร
✅การวิเคราะห์หุ้น วงจร รอบมา รอบไป สัญญาณในงบการเงิน
✅หุ้น turn around เจ้ากำลังแอบทำโปรเจกอะไรในงบการเงิน
✅การประมเนมูลค่าของแต่ละ sector ว่ามมีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร

🔈สอนโดย อ ภัทรธร ช่อวิชิต
นักลงทุนอิสระ เจ้าของผลงานหนังสือ คุ้ยแคะแกะหุ้นเด้ง และเจาะหุ้นร้อนสแกนหุ้นเด้ง

=======================================
แคปรูปตรงนี้มาได้ส่วนลดพิเศษจากปกติ 5000 บาท เหลือเพียง 2,800 บาทเท่านั้น
☎ติดต่อสอบถามและลงทะเบียน (รับจำนวนจำกัด)
line id; pat4310

เพิ่มเพื่อน
=======================================

10 จุดขาย ที่ทำให้ลูกค้าต้องซื้อของคุณ เยี่ยมจริงๆ

คนเราซื้อของเพราะชีวิตมีปัญหา
ถ้าสินค้าเราแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ ยังก็ก็ขายได้
ขายได้แล้วก็มีเงินมาเล่นหุ้นเยี่ยมจริงๆ
1.ทำให้ได้เงิน
2.ทำให้สะดวกขึ้น
3.ทำให้เป็นที่ยอมรับ
4.ทำให้ง่ายขึ้น
5.ประหยัดเวลาได้
6.แก้ไขความเจ็บปวด
7.ลดความสุญเสีย
8.ทำให้ปลอดภัย
9ทำให้ประหยัด
10.ทำให้มีคนรัก
เอาปัญหามาทำคอนเท้น ยังไงก็ขายได้ และสร้างคอนเท้นได้ไม่รู้จบ


=======================================

อ่านหนังสือมาเยอะแต่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก


รวม 3 หลักสูตร Online ในคอรสเดียว เรียนจบวิเคราะห์หุ้นได้ทุกตัวในตลาด


✅เเจาะงบราย sector + ประเมินมูลค่า + แกะงบทุกตัวในตลาด(ปีละครั้ง) และสรุปงบ ทุกไตรมาส
✅เรียนOnlineผ่านวิดิโอในfacebookกลุ่มปิด ความยาวกว่า 60 ชั่วโมง
✅ดูได้ตลอดชีพ ไม่มีลบคลิป และไลฟอัพเดทเนื้อหาให้ทันสมัยตลอดเวลา
✅สงสัยถามได้ตลอดเวลา

☀เรียนแล้วได้อะไร☀


✅ดูการ เกิดขึ้นตั้งอยู่และถดถอย ของธุรกิจผ่านงบการเงิน
✅แต่ละช่วงเศรษฐกิจ sector ไหนไป sector ไหนมา และเครื่องมือดูแบบ real time
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่มการเงิน คุณภาพลูกหนี้ดูตรงไหน
✅กลุ่มธุรกิจบริการ การเติบโต จุดคุ้มทุนดูอย่างไร
✅โรงแรม สื่อสาร ค้าปลีก
✅การวิเคราะห์ธุรกิจผลิต เทคนิคดูกำลังการผลิตของโรงงาน เมื่อไรจะต้องขยายโรงงานใหม่
✅ประสิทธิภาพโรงงานเป็นอย่างไร ใครดีใครด้อย เผยชัดๆ
✅การวิเคราะห์ธุรกิจ ซื้อมาขายไป สิ้นค้าค้างสต็อก เก็บเงินไม่ได้ดูอย่างไร
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่มรับเหมา
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์ แบบไวๆ จะโอนได้เมื่อไร
✅การวิเคราะห์หุ้น วงจร รอบมา รอบไป สัญญาณในงบการเงิน
✅หุ้น turn around เจ้ากำลังแอบทำโปรเจกอะไรในงบการเงิน
✅การประมเนมูลค่าของแต่ละ sector ว่ามมีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร

🔈สอนโดย อ ภัทรธร ช่อวิชิต
นักลงทุนอิสระ เจ้าของผลงานหนังสือ คุ้ยแคะแกะหุ้นเด้ง และเจาะหุ้นร้อนสแกนหุ้นเด้ง

=======================================
แคปรูปตรงนี้มาได้ส่วนลดพิเศษจากปกติ 5000 บาท เหลือเพียง 2,800 บาทเท่านั้น
☎ติดต่อสอบถามและลงทะเบียน (รับจำนวนจำกัด)
line id; pat4310

เพิ่มเพื่อน
=======================================

วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2567

เห็น DITTO TEAMG วิ่งยังกับม้ามาส่องงบกัน

เห็น DITTO TEAMG วิ่งยังกับม้ามาส่องงบกัน
มาที่ ditto ก่อน ตัวงบรับรุ้รายได้แบบรับเหมา ที่ตาม % ความสำเร็จไตรมาสไหนทำเยอะก็รายได้กำไรเยอะ
งบกำไรขาดทุนก็เติบโตดี รายได้เติบโต 15% จากงานรับเหมาภาครัฐ เช่นสวนสัตว์เขาดินแห่งใหม่ และงานเอกสารดิจิตอล
อัตรากำไรค่อนข้างดีเลย ประมาณ 18% ต่อเนื่อง
มีงานรอส่งมอบอยู่ 4000 ล้านบาท
ในแง่กระแสเงินสดยังเป็นบวก หมุนได้อยู่
.
แต่จุดที่น่าสนใจในงบคือ ditto ใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบแนวข้าง ทำธุรกิจเกี่ยวบ้างไม่เกี่ยวบ้างเช่นไปซื้อกิจการ netbay ทำงานก่อสร้างร่วมกับ teamg ปลกป่าขายคารบ้านเครดิตก็มี 
กำไรอาจยังไม่มาเต็มที่ เริ่มเห็น ROA ลดลง จาก 19% ในปี 65 ลงมาเหลือ 12.8 ใน Q2 67 ถ้าอนาคต roa เริ่มเพิ่มแสดงว่าสัญญาณ การซื้อกิจการแล้วมี synergy เริ่มมา
.
teamg
'
teamg ส่วนใหญ่จะเป็นทำงานที่ปรึกษาไม่ค่อยรับเอาเท่าไร ก็มาจับมือกับ ditto ไปรับงาน ต่างๆ ได้มาหลายงาน
ผลประกอบการ รายได้เติบโตตามงานที่เพิ่มขึ้น กำไรใช้ได้ ประมาณ 7% 
เทียบกัน ditto ทำงานได้อัตรากำไรดีกว่าเยอะ
.
มาดูที่สภาพคล่อง teamg จะมีปัญหาสภาพคล่องหน่อย ส่วนใหญ่เป็นช่วงงานเข้ามาเยอะทำไปยังไม่ได้เก็บเงิน เงินไปจมในสินทรัพย์ที่เกิดจากสัญญา กับลูกหนี้การค้าหมด
กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน ส่วนใหญ่จะบางๆไม่ก็ติดลบ
แต่ถ้ากระแสเงินสดดี แสดงว่าไม่ค่อยมีงานหุ้นตกอีก 555
"
โดยรวมแล้ว ditto เป็นหุ้นเติบโต และเห็นโอกาสอะไรก็ลงทุนไปเรื่อย แฟนคลับก็ภาวนาอย่าให้ ceo ลงทุนอะไรแปลกๆ ส่วน teamg ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญ ควบคุมงาน เห็นว่าพอไปรับงานกับ ditto ก็คุมกำไรได้ดีอยู่ ไม่เสียชื่อ โคช ลงสนาม
=======================================

อ่านหนังสือมาเยอะแต่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก


รวม 3 หลักสูตร Online ในคอรสเดียว เรียนจบวิเคราะห์หุ้นได้ทุกตัวในตลาด


✅เเจาะงบราย sector + ประเมินมูลค่า + แกะงบทุกตัวในตลาด(ปีละครั้ง) และสรุปงบ ทุกไตรมาส
✅เรียนOnlineผ่านวิดิโอในfacebookกลุ่มปิด ความยาวกว่า 60 ชั่วโมง
✅ดูได้ตลอดชีพ ไม่มีลบคลิป และไลฟอัพเดทเนื้อหาให้ทันสมัยตลอดเวลา
✅สงสัยถามได้ตลอดเวลา

☀เรียนแล้วได้อะไร☀


✅ดูการ เกิดขึ้นตั้งอยู่และถดถอย ของธุรกิจผ่านงบการเงิน
✅แต่ละช่วงเศรษฐกิจ sector ไหนไป sector ไหนมา และเครื่องมือดูแบบ real time
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่มการเงิน คุณภาพลูกหนี้ดูตรงไหน
✅กลุ่มธุรกิจบริการ การเติบโต จุดคุ้มทุนดูอย่างไร
✅โรงแรม สื่อสาร ค้าปลีก
✅การวิเคราะห์ธุรกิจผลิต เทคนิคดูกำลังการผลิตของโรงงาน เมื่อไรจะต้องขยายโรงงานใหม่
✅ประสิทธิภาพโรงงานเป็นอย่างไร ใครดีใครด้อย เผยชัดๆ
✅การวิเคราะห์ธุรกิจ ซื้อมาขายไป สิ้นค้าค้างสต็อก เก็บเงินไม่ได้ดูอย่างไร
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่มรับเหมา
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์ แบบไวๆ จะโอนได้เมื่อไร
✅การวิเคราะห์หุ้น วงจร รอบมา รอบไป สัญญาณในงบการเงิน
✅หุ้น turn around เจ้ากำลังแอบทำโปรเจกอะไรในงบการเงิน
✅การประมเนมูลค่าของแต่ละ sector ว่ามมีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร

🔈สอนโดย อ ภัทรธร ช่อวิชิต
นักลงทุนอิสระ เจ้าของผลงานหนังสือ คุ้ยแคะแกะหุ้นเด้ง และเจาะหุ้นร้อนสแกนหุ้นเด้ง

=======================================
แคปรูปตรงนี้มาได้ส่วนลดพิเศษจากปกติ 5000 บาท เหลือเพียง 2,800 บาทเท่านั้น
☎ติดต่อสอบถามและลงทะเบียน (รับจำนวนจำกัด)
line id; pat4310

เพิ่มเพื่อน
=======================================

วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2567

factsheet ของ set ตลาดหลักทรัพย์มีอะไรให้ดูบ้าง

factsheet ของ set มีอะไรให้ดูบ้าง


factsheet ของ set มีอะไรให้ดูบ้าง เดี๋ยวพาทัวร์
1. ลักษณะธุรกิจ บอกว่าทำมาหากินอะไร อย่างน้อยได้ตั้งต้นถูกว่าจะวิเคราะห์อะไร
2. สรุปความถูกแพงคร่าวๆ มีข้อมูลเช่น มูลค่าตลาด pe ส่วนตัวชอบดู pe ว่าแพงไหม ถ้า pe แพง แสดงว่าเล่น growth ก็มโนเยอะๆหน่อย pe ต่ำเป็นหุ้นถูก ก็ดูงบดีๆ
3.กราฟ มีให้ 5 ปี ดูว่าคนมองหุ้นตัวนี้ยังไงถ้าราคาลงแสดงว่าตาดมองผลประกอบการอนาคตไม่ดี มีเส้นเทียบกับตลาดและอุตสาหกรรมให้  
4.ผู้ถือหุ้น ดูๆไว้เผื่อเจอคนรู้จัก แต่อย่าไปเชื่อมาก บางทีเซียนซื้อจนถือหุ้นใหญ่อาจจะออกไปแล้วก็ได้
5 ข้อมูลสำหรับประเมินมูลค่า ปกติผมเอามาดูทีหลังจากดูงบ มี PE PBV เทีบอดีต เทียบอุตสาหกรรม ข้อมูลสำหรับการคำนวณมูลค่าเช่น beta อัตราปันผลต่อกำไร 
6 ปันผล ไว้ดูว่าจ่ายกี่ครั้ง ผลตอบแทนปันผลได้กี่% น่าลงทุนไหม
7.ข่าว เวลาบริษัทจะลงทุนอะไรใหม่ๆ ซื้อขายกิจการ  งบการเงินรายไตรมาส ก็ต้องประกาศตรงนี้
8 งบดุล เหมือนการจัดกองทัพก่อนเข้าโจมตีกระเป๋าของลูกค้า
สินทรัพย์ เครือ่งมือทำมาหากิจ ต้องสอดคล้องกับลักษณะธุรกิจ ผลิต บริการ ซื้อมาขายไป อสังหา รับเหมา การเงิน
หนี้สิน ทุน ไปหาทรัพยากรมาจากไหน เงินชาวบ้านหรือทุนตัวเอง หนี้เยอะก็เสี่ยงหน่อย
9 งบกำไรขาดทุน เหมือนดูฝีมือของ CEO ว่าพากองทัพไปโจมตีสำเร็จหรือเปล่า ถ้าสำเร็จก็นำเงินจากลูกค้ามาได้
แล้วดูต้นทุนคุมดีแค่ได้ มีรายได้แต่คุมรายจ่ายไม่ดีก็จบ
เห็นตัวเลขแล้วต้องโหลดคำอธิบายงบการเงินในข่าวมาอ่าน เพื่อรู้ว่าที่มาที่ไปของตัวเลขคืออะไร
10 งบกระแสเงินสด มองเป็นบัญชีครัวเรื่อนเขาก็จดรายได้รายจ่ายเป็นเงินสดนี่แหละ แบ่งเป็นสามส่วน
กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน ทำมาค้าขายเงินเป็นไง
กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน ช่วงนี้ลงทุนอะไรบ้าง หรือขายของเก่ากิน
กระแสเงินสดจากิจกรรมจัดหาเงิน กู้หนี้หรือเพิ่มทุนจ่ายปันผลยังไง
11 อัตราส่วนทางการเงิน
หาปัญหาของธุรกิจได้ หลักๆมี 3 เรื่อง อันไหนเพิ่มลดผิดปกติไม่รอดสายตา
หนี้สิน (อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน)
การนำสินทรัพย์ไปใช้ประโยชน์ (วงจรเงินสด อัตราหมุนเวียนทรัพย์สิน ROA)
การทำกำไร (อัตรากำไรขั้นต้น ebitmargin อัตรากำไรสุทธิ ROE)
=======================================

อ่านหนังสือมาเยอะแต่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก


รวม 3 หลักสูตร Online ในคอรสเดียว เรียนจบวิเคราะห์หุ้นได้ทุกตัวในตลาด


✅เเจาะงบราย sector + ประเมินมูลค่า + แกะงบทุกตัวในตลาด(ปีละครั้ง) และสรุปงบ ทุกไตรมาส
✅เรียนOnlineผ่านวิดิโอในfacebookกลุ่มปิด ความยาวกว่า 60 ชั่วโมง
✅ดูได้ตลอดชีพ ไม่มีลบคลิป และไลฟอัพเดทเนื้อหาให้ทันสมัยตลอดเวลา
✅สงสัยถามได้ตลอดเวลา

☀เรียนแล้วได้อะไร☀


✅ดูการ เกิดขึ้นตั้งอยู่และถดถอย ของธุรกิจผ่านงบการเงิน
✅แต่ละช่วงเศรษฐกิจ sector ไหนไป sector ไหนมา และเครื่องมือดูแบบ real time
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่มการเงิน คุณภาพลูกหนี้ดูตรงไหน
✅กลุ่มธุรกิจบริการ การเติบโต จุดคุ้มทุนดูอย่างไร
✅โรงแรม สื่อสาร ค้าปลีก
✅การวิเคราะห์ธุรกิจผลิต เทคนิคดูกำลังการผลิตของโรงงาน เมื่อไรจะต้องขยายโรงงานใหม่
✅ประสิทธิภาพโรงงานเป็นอย่างไร ใครดีใครด้อย เผยชัดๆ
✅การวิเคราะห์ธุรกิจ ซื้อมาขายไป สิ้นค้าค้างสต็อก เก็บเงินไม่ได้ดูอย่างไร
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่มรับเหมา
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์ แบบไวๆ จะโอนได้เมื่อไร
✅การวิเคราะห์หุ้น วงจร รอบมา รอบไป สัญญาณในงบการเงิน
✅หุ้น turn around เจ้ากำลังแอบทำโปรเจกอะไรในงบการเงิน
✅การประมเนมูลค่าของแต่ละ sector ว่ามมีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร

🔈สอนโดย อ ภัทรธร ช่อวิชิต
นักลงทุนอิสระ เจ้าของผลงานหนังสือ คุ้ยแคะแกะหุ้นเด้ง และเจาะหุ้นร้อนสแกนหุ้นเด้ง

=======================================
แคปรูปตรงนี้มาได้ส่วนลดพิเศษจากปกติ 5000 บาท เหลือเพียง 2,800 บาทเท่านั้น
☎ติดต่อสอบถามและลงทะเบียน (รับจำนวนจำกัด)
line id; pat4310

เพิ่มเพื่อน
=======================================

วันเสาร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2567

หุ้น JMT งบการเงินผ่านจุดต่ำสุดไปยัง

หุ้น JMT งบการเงินผ่านจุดต่ำสุดไปยัง วิ่งแรงทุกวันใครมีก็ดีใจด้วย ใครจะตามก็มาส่องงบกันก่อน
.

ดูความถูกแพงหุ้น jmt

ปัจจุบัน jmt PE 13 เท่า ไม่ได้แพงมาก กลุ่มการเงินก็ลงมา PE ประมาณนี้ และ PE ต่ำมากเมื่อเทียบกับอดีตที่ไม่รู้ทำไมยืนได้ 30 เท่าตลอด
.

ปัญหาที่ทำให้หุ้น jmt ลงมาเละเทะ

ปัญหาของ JMT คือ ความกังวลในเรื่องการเติบโต โดยสัญญาณงบการเงินที่เป็นมาต่อเนื่องหลายปีคือ
1.ROA ลดลงเรื่อยๆ แสดงว่าสินทรัพย์ที่ซื้อมาทวงให้ผลตอบแทนลดลง
2.กำไรจากการทวงหนี้ลดลงเรื่อยๆ แสดงว่าทวงหนี้ได้เกินเงินต้นลดลง อาจมากจากซื้อหนี้มาแพงเพราะคู่แข่งเยอะ หรือเก็บได้ลดลงกว่าสมัยก่อน
3.จากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้ ทวงหนี้ไม่ค่อยได้ตามแผน ทำให้งบการเงินต้องตั้งสำรองหนี้เสียเพิ่มขึ้น ทำให้งบ Q2 ที่ประกาสมากำไรลดลงกว่า 35% 
.

แนวทางแก้ไขปัญหาหุ้น jmt

จาก oppday ของ jmt ที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนเริ่มมีความหวัง
เพราะตัวเลขการจัดการเก็บหนี้เริ่มดีขึ้น และผู้บริหารบอกว่าครึ่งปีหลังจะจัดเก็บหนี้ได้มากขึ้น
ถ้าทำได้จริงผลคือ การตั้งสำรองหนี้เสียจะลลง และกำไรจะเพิ่มขึ้น
หลังจาก oppday ราคาหุ้นก็วิ่งอย่างที่เห็นนี่แหละ
.
หลังจากราคาลงมาเยอะจน PE น่าสนใจ ผลประกอบการแย่ลงเพราะเก็บหนี้ได้น้อยกว่าเป้า แต่ผู้บริหารพูดใน oppday ว่าเริ่มดีขึ้น คนก็เข้ามา สิงที่จะตอบได้ว่าจริงไหมคืองบ Q3 ที่จะออกประมาณเดือน 11 นั่นเองถ้าฟื้นก็เยี่ยมเลย
สู้ๆ JMT
=======================================

อ่านหนังสือมาเยอะแต่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก


รวม 3 หลักสูตร Online ในคอรสเดียว เรียนจบวิเคราะห์หุ้นได้ทุกตัวในตลาด


✅เเจาะงบราย sector + ประเมินมูลค่า + แกะงบทุกตัวในตลาด(ปีละครั้ง) และสรุปงบ ทุกไตรมาส
✅เรียนOnlineผ่านวิดิโอในfacebookกลุ่มปิด ความยาวกว่า 60 ชั่วโมง
✅ดูได้ตลอดชีพ ไม่มีลบคลิป และไลฟอัพเดทเนื้อหาให้ทันสมัยตลอดเวลา
✅สงสัยถามได้ตลอดเวลา

☀เรียนแล้วได้อะไร☀


✅ดูการ เกิดขึ้นตั้งอยู่และถดถอย ของธุรกิจผ่านงบการเงิน
✅แต่ละช่วงเศรษฐกิจ sector ไหนไป sector ไหนมา และเครื่องมือดูแบบ real time
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่มการเงิน คุณภาพลูกหนี้ดูตรงไหน
✅กลุ่มธุรกิจบริการ การเติบโต จุดคุ้มทุนดูอย่างไร
✅โรงแรม สื่อสาร ค้าปลีก
✅การวิเคราะห์ธุรกิจผลิต เทคนิคดูกำลังการผลิตของโรงงาน เมื่อไรจะต้องขยายโรงงานใหม่
✅ประสิทธิภาพโรงงานเป็นอย่างไร ใครดีใครด้อย เผยชัดๆ
✅การวิเคราะห์ธุรกิจ ซื้อมาขายไป สิ้นค้าค้างสต็อก เก็บเงินไม่ได้ดูอย่างไร
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่มรับเหมา
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์ แบบไวๆ จะโอนได้เมื่อไร
✅การวิเคราะห์หุ้น วงจร รอบมา รอบไป สัญญาณในงบการเงิน
✅หุ้น turn around เจ้ากำลังแอบทำโปรเจกอะไรในงบการเงิน
✅การประมเนมูลค่าของแต่ละ sector ว่ามมีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร

🔈สอนโดย อ ภัทรธร ช่อวิชิต
นักลงทุนอิสระ เจ้าของผลงานหนังสือ คุ้ยแคะแกะหุ้นเด้ง และเจาะหุ้นร้อนสแกนหุ้นเด้ง

=======================================
แคปรูปตรงนี้มาได้ส่วนลดพิเศษจากปกติ 5000 บาท เหลือเพียง 2,800 บาทเท่านั้น
☎ติดต่อสอบถามและลงทะเบียน (รับจำนวนจำกัด)
line id; pat4310

เพิ่มเพื่อน
=======================================

วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2567

ส่องงบ YGG 2024 จะรอดไหม ขาดทุนหนัก 300 ล้าน

หลังจากปัญหาชีวิต ผู้บริหาร ygg โดนฟอร์สเซล หุ้นหายหมด ขาดทุนจากงานที่ทำ มาส่องงบ ดูผู้บริหารกันครับว่าจะรอดไหม
.

สภาพปัญหาหุ้น ygg เกิดจากอะไร

โปรเจกเยอะทำหลายๆอันพร้อมกัน และหลายอันก็เงินจม ทั้งทำหนัก และทำเกมส์ ออกแบบตัวละคร
มองงบกำไรขาดทุนไม่เห็นอะไรเพราะมีกำไรตามปกติ
แต่ที่ไม่ปกติเพราะรับรู้รายได้แบบรับเหมา ที่รับรู้รายได้ตาม% ความสำเร็จ
ทำงานไป รับรู้รายได้เลย ก็บันทึกเป็นสินทรัพย์ที่เกิดจากสัญญา พอทำเสร็จส่งใบเสร็จก็เป็นลูกหนี้การค้า และเก็บเงินต่อไป
.
ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเอาเงินไปจมกว่า 375 ล้าน จากสินทรัพย์ที่เกิดจากสัญญา 300 ล้านบาท มีสินทรัพย์ไม่มีตัวตนอีก 60 ล้าน และเล็กๆน้อยๆอีกเป็น 375 ล้านบาท
.
เงินก้อนนี้ตั้งด้อยค่าท้งหมด กำไรสะสมตั้งแต่ ipo กลายเป็นขาดทุนสะสม 261 ล้านบาท
.
.

แนวทางแก้ปัญหาหุ้น ygg

.
ดูสิ่งที่มี ระยะสั้นเท่าที่ไล่ดู หุ้น ygg มีสินทรัพย์หมุนเวียนมากกว่าหนี้หมุนเวียนอยู่ แต่ดูไส้เป็นงานระหว่างทำ คือหนังที่ถ่ายเสร็จแล้วรอฉาย
หวังว่าจะขายลิขสิทธ์ได้ได้เงินกลับมา เอามาจ่ายหนี้หมุนเวียนได้
.
การทำงาน ygg ก็ปรับเป็นรับงานเล็กๆเอา สร้างสภาพคล่องเริ่มต้นกันใหม่
ส่วนแหล่งที่มาเงินทุนอย่างการกู้ยืม หรือเพิ่มทุน ไม่ได้เขียนในแผนที่แจ้งกับตลาดหลักทรัพย์ แต่ผมว่า de ยังต่ำ น่าจะกู้ยืมระยะสั้นได้พอสมควร อีกซักพักกว่าจะเพิมทุน
.
สรุป ygg น่าจะรอด ทำงานก็อกๆแก็กๆไป แต่จะกลับมาโตอีกรอบ ผู้บริหารต้องวางแผนการเงินควบคุ๋กับความฝันให้ดีกว่านี้
=======================================

อ่านหนังสือมาเยอะแต่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก


รวม 3 หลักสูตร Online ในคอรสเดียว เรียนจบวิเคราะห์หุ้นได้ทุกตัวในตลาด


✅เเจาะงบราย sector + ประเมินมูลค่า + แกะงบทุกตัวในตลาด(ปีละครั้ง) และสรุปงบ ทุกไตรมาส
✅เรียนOnlineผ่านวิดิโอในfacebookกลุ่มปิด ความยาวกว่า 60 ชั่วโมง
✅ดูได้ตลอดชีพ ไม่มีลบคลิป และไลฟอัพเดทเนื้อหาให้ทันสมัยตลอดเวลา
✅สงสัยถามได้ตลอดเวลา

☀เรียนแล้วได้อะไร☀


✅ดูการ เกิดขึ้นตั้งอยู่และถดถอย ของธุรกิจผ่านงบการเงิน
✅แต่ละช่วงเศรษฐกิจ sector ไหนไป sector ไหนมา และเครื่องมือดูแบบ real time
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่มการเงิน คุณภาพลูกหนี้ดูตรงไหน
✅กลุ่มธุรกิจบริการ การเติบโต จุดคุ้มทุนดูอย่างไร
✅โรงแรม สื่อสาร ค้าปลีก
✅การวิเคราะห์ธุรกิจผลิต เทคนิคดูกำลังการผลิตของโรงงาน เมื่อไรจะต้องขยายโรงงานใหม่
✅ประสิทธิภาพโรงงานเป็นอย่างไร ใครดีใครด้อย เผยชัดๆ
✅การวิเคราะห์ธุรกิจ ซื้อมาขายไป สิ้นค้าค้างสต็อก เก็บเงินไม่ได้ดูอย่างไร
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่มรับเหมา
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์ แบบไวๆ จะโอนได้เมื่อไร
✅การวิเคราะห์หุ้น วงจร รอบมา รอบไป สัญญาณในงบการเงิน
✅หุ้น turn around เจ้ากำลังแอบทำโปรเจกอะไรในงบการเงิน
✅การประมเนมูลค่าของแต่ละ sector ว่ามมีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร

🔈สอนโดย อ ภัทรธร ช่อวิชิต
นักลงทุนอิสระ เจ้าของผลงานหนังสือ คุ้ยแคะแกะหุ้นเด้ง และเจาะหุ้นร้อนสแกนหุ้นเด้ง

=======================================
แคปรูปตรงนี้มาได้ส่วนลดพิเศษจากปกติ 5000 บาท เหลือเพียง 2,800 บาทเท่านั้น
☎ติดต่อสอบถามและลงทะเบียน (รับจำนวนจำกัด)
line id; pat4310

เพิ่มเพื่อน
=======================================

วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2567

เข้าใจ NPV ก็สอบ CFA CISA ่ผ่านได้

เข้าใจ NPV ก็สอบ CFA CISA ่ผ่านได้
นักเรียนที่เคยเรียนคอร์สวิเคราะห์หุ้นทักมาขอบคุณที่ช่วยต่อติดให้สอบ AISA ของตลาดหลักทรัพย์ผ่าน
เลยมานั่งคิดคำว่า "ต่อติด" คือเนื้อหาอะไรส่วนไหน ที่เข้าใจแล้วต่อยอดเนื้อหาได้ทั่วโลกของการเงิน
จริงสมัยก่อนก็ไม่ค่อยมีคอร์สหุ้นอะไร แต่ด้วยความอยากรวยก็เจอหลักสูตร CISA ของตลาดที่ ล้อเนื้อหากับ CFA ของเมืองนอก แต่ใช้ภาษาไทย และค่าสอบถูกกว่าเยอะ และไปอ่านมาว่า คนออกแบบหลักสูตรก็คือ เกรแฮม คนคิดการลงทุนแบบ VI นั่นเอง
.
แต่ก่อนมี 3 ระดับ ตอนนี้ย่อมาเหลือ 2 เป็น AISA เอา cisa1 บวก cisa2ครึ่งนึง และ CISA เอา cisa 2 ที่เหลือบวกกับ cisa 3 เน้นกลยุทธ์ลงทุน
พอเหลือ 2 ระดับค่อยมีกำลังใจสอบให้ครบหน่อย
เน้นสอบหลายๆรอบเพื่อให้ความรุ้แน่น555
.

เนื้อหาที่ทำให้ต่อติดคือเรื่อง มูลค่าของเงินตามเวลานั่นเอง

future value คือ ลงทุนวันนี้ pv บาท ผลตอบแทน i% ทบต้น n ปี สิ้นปีที่ n มีเงินกี่บาท
present value คือ ต้องการเงินอนาคตสิ้นปีที่ n ที่ FV บาท ผลตอบแทน i% ทบต้น n ปี ต้องลงทุนวันนี้กี่บาท
ต่อยอดเป็น NPV
จากวิชาเศรษฐศาสตร์มองว่า i% คือผลตอบแทนที่คาดหวัง เป็นตัวแทนของค่าเสียโอกาส ของทางเลือกที่ต้องสละไป 
.
มูลค่าของเงิน ไปสู่ NPV เพื่อตัดสินใจ ซื้อขายหุ้น
.
สมมติต้องซื้อหุ้น ได้ปันผล d บาทต่อปี เติบโตปีละ g ราคาหุ้นวันนี้ p บาท  นักลงทุนต้องคิดว่าถอนเงินจากฝากแบงค์ k% ไปซื้อหุ้นดีไหม 
.
NPV = ซื้อกระแสเงินสดของหุ้น(เงินปันผล)ในอนาคต ได้ปันผล d บาทต่อปี เติบโตปีละ g ด้วยผลตอบแทนเท่ากับฝากแบงค์ k% ต้องใช้เงินต้นกี่บาท - เงินลงทุนซื้อหุ้นวันนี้ที่ P บาท
NPV = D/(k-g) - P
.
NPV มากกว่า 0 แปลว่า ซื้อหุ้นได้ผลตอบแทนมากกว่าฝากแบงค์ คนจะถอนเงินจากแบงค์มาซื้อหุ้น
NPV = 0 แปลว่า ซื้อหุ้นได้ผลตอบแทนเท่ากับฝากแบงค์ คนจะถอนเงินจากแบงค์มาซื้อหุ้น หรืออยู่เฉยๆ ได้ผลตอบแทนเท่ากัน
NPV น้อยกว่า 0 แปลว่า ซื้อหุ้นได้ผลตอบแทนน้อยกว่าฝากแบงค์ คนจะขายหุ้นมาฝากแบงค์
.
จุดเหมาะสมคือ NPV=0
0 = D/(k-g) -P
P = D/(k-g)
.

จาก NPV ต่อยอดไปประเมินมูลค่า

.

ตราสารหนี้

ราคาตลาดคือมูลค่าปัจจุบันของ ดอกเบี้ยหน้าตั๋วคิดลดด้วยดอกเบี้ยตลาด
ต่อยอดเป็นกลยุทธ์ต่างๆ เช่น ดอกลงควรซื้อตราสารหนี้ระยะยาวเพราะราคาตลาดขึ้นมากกว่าตราสารหนี้ระยะสั้น
จนมานั่งจิ้มตัวเลขว่าจะเพิ่มลดอายุตราสารหนี้เฉลี่ยในพอร์ทต้องใช้อะไรเท่าไร
.

ตราสารทุน

พาร์ทเชิงคุณภาพใช้ทฤษฎีบริหารเยอะหน่อย เรื่องการวางแผลเชิงกลยุทธ์
มาวิเคราะห์งบ
เอาข้อมูลที่ได้มาประมาณการ กระแสเงินสดในอนาคต และคิดลดเป็นปัจจุบันว่าควรซื้อวันนี้กี่บาทถึงได้ผลตอบแทนขั้นต่ำเท่าที่เราต้องการ
ยิ่งซื้อได้ต่ำกว่าที่คำนวณแสดงว่าได้ผลตอบแทนมากขึ้น
.

ตราสารอนุพันธ์

เราซื้อหรือขายสินค้าอนาคต ไม่รู้ราคาเท่าไร แต่อย่างน้อย ราคาต้องบวกจนผลตอบแทนจากการลงทุนคุ้มกับค่าเสียโอกาสในการรอ
อย่างหุ้น ner ก็เอาแนวคิดนี้มาใช้ ในการเฮจจิ้งราคายาง โดยซื้อยางมาสต็อกไว้ และขายวันนี้แต่ส่งมอบ 3 เดือนข้างหน้า ด้วยการบวกต้นทุนค่าเก็บรักษา และดอกเบี้ยที่กู้ซื้อยางมาเก็บในโกดัง ถึงเวลาก็ส่งมอบตามสัญญา กำไรได้ตามคาด 
ขณะที่เพื่อนๆ กำไรเหวี่ยงตามราคายาง
.
สรุป เข้าใจเรื่อง NPV นี่ต่อยอดได้เยอะ แต่จุดสำคัญในการลงทุนคือ การมองอนาคตให้ออก 3 เดือน 3 ปี ได้วางแผนจัดพอร์ทเลือกสินทรัพย์ เลือกกลยุทธ์ถูก
=======================================

อ่านหนังสือมาเยอะแต่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก


รวม 3 หลักสูตร Online ในคอรสเดียว เรียนจบวิเคราะห์หุ้นได้ทุกตัวในตลาด


✅เเจาะงบราย sector + ประเมินมูลค่า + แกะงบทุกตัวในตลาด(ปีละครั้ง) และสรุปงบ ทุกไตรมาส
✅เรียนOnlineผ่านวิดิโอในfacebookกลุ่มปิด ความยาวกว่า 60 ชั่วโมง
✅ดูได้ตลอดชีพ ไม่มีลบคลิป และไลฟอัพเดทเนื้อหาให้ทันสมัยตลอดเวลา
✅สงสัยถามได้ตลอดเวลา

☀เรียนแล้วได้อะไร☀


✅ดูการ เกิดขึ้นตั้งอยู่และถดถอย ของธุรกิจผ่านงบการเงิน
✅แต่ละช่วงเศรษฐกิจ sector ไหนไป sector ไหนมา และเครื่องมือดูแบบ real time
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่มการเงิน คุณภาพลูกหนี้ดูตรงไหน
✅กลุ่มธุรกิจบริการ การเติบโต จุดคุ้มทุนดูอย่างไร
✅โรงแรม สื่อสาร ค้าปลีก
✅การวิเคราะห์ธุรกิจผลิต เทคนิคดูกำลังการผลิตของโรงงาน เมื่อไรจะต้องขยายโรงงานใหม่
✅ประสิทธิภาพโรงงานเป็นอย่างไร ใครดีใครด้อย เผยชัดๆ
✅การวิเคราะห์ธุรกิจ ซื้อมาขายไป สิ้นค้าค้างสต็อก เก็บเงินไม่ได้ดูอย่างไร
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่มรับเหมา
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์ แบบไวๆ จะโอนได้เมื่อไร
✅การวิเคราะห์หุ้น วงจร รอบมา รอบไป สัญญาณในงบการเงิน
✅หุ้น turn around เจ้ากำลังแอบทำโปรเจกอะไรในงบการเงิน
✅การประมเนมูลค่าของแต่ละ sector ว่ามมีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร

🔈สอนโดย อ ภัทรธร ช่อวิชิต
นักลงทุนอิสระ เจ้าของผลงานหนังสือ คุ้ยแคะแกะหุ้นเด้ง และเจาะหุ้นร้อนสแกนหุ้นเด้ง

=======================================
แคปรูปตรงนี้มาได้ส่วนลดพิเศษจากปกติ 5000 บาท เหลือเพียง 2,800 บาทเท่านั้น
☎ติดต่อสอบถามและลงทะเบียน (รับจำนวนจำกัด)
line id; pat4310

เพิ่มเพื่อน
=======================================

วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ลองคิดแทนเจ้าของหุ้น EA จะแก้ปัญหาอย่างไร

ช่วงนี้ EA ดราม่าเยอะปัญหาแยะ ลองคิดแทนผู้บริหารดูว่าจะทำยังไงดี

สภาพปัญหา

โรงไฟฟ้ามี adder ที่กำลังหมด ถ้าไม่รวมรายได้จาก adder กำไรแทบไม่เหลือ
ลงทุนธรุกิจใหม่คือ รถไฟฟ้า ลูกค้าใหญ่คือ thai smile bus ก็กำไรไม่ค่อยดี 
EA ก็รับรู้รายได้จากการขายรถไปแล้วคนกังวลว่าจะมีลูกค้าต่อเนื่องไหม

หนี้สินที่กู้มาสร้างโรงไฟฟ้าน่าจะจ่ายได้ตามแผน
ส่วนหนี้ที่กู้มาสร้างโรงงานรถยนต์ไฟฟ้า ต้องลุ้นจากยอดขายในอนาคต
ลูกนี้การค้ากว่า 13,000 ล้านน่าจะของ thai smile bus นั่นแหละจะจ่ายยังไง

ปัญหาหลักคือเรื่องสภาพคล่องนั่นเอง

แผนเดิม ช่วงกำไรโรงไฟฟ้ายังเยอะออกหุ้นกู้วนไป เอาของใหม่วนจ่ายของเก่า จ่ายดอกเบี้ยไป
เพิ่มทุนที่ nex เอามาหมุนลูกหนี้การค้านั่นแหละ

พอ กลต ชี้มูลปัญหาใหญ่เกิด

กองทุนไม่ซื้อทัั้งหุ้น และ พันธบัตร
แผนออกพันธบัตรวนไปน่าจะมีปัญหา

เหลือเงิน 2 แหล่งคือ รายได้จากโรงไฟฟ้า และเงินกู้แบงค์
2 ปีจากนี้กำไรโรงไฟฟ้าก่อนหมด adder ประมาณ 10,000 ล้านน่าจะหมุนได้
เหลือแบงค์จะให้กู็ไหม
ถ้าแบงค์ไม่ให้กู้

อาจต้องขายสินทรัพย์
ที่มองตัวโรงไฟฟ้าน่าจะมีคนซื้อ เพราะถึงหมด adder ก็ยังมีกระแสเงินสดอยู่
ได้เงินก้อนก็เอามาจ่ายหนี้ของ โรงงานรถไฟฟ้าได้
จบเกมส์ ปิดบริษัท 555
==========================
อัพเดท 3/9/2024

ระยะสั้นรอดอยู่เนื่องจาก ยังมีกระแสเงินสดจากโรงไฟฟ้าพอทู่ซี้ได้อยู่ แต่ก็กำลังทยอยหมดใน 2-3 ปี แต่ก็เอาตรงนี้มาเจรจาเจ้าหนี้ระยะสั้นได้ บางตัว asp เหมาหมดรวมหนี้รายย่อยมาให้กู้เอง รอดไป

ระยะกลาง อันนี้เหนื่อย เพราะโรงไฟฟ้า adder กำลังจะหมด และรถยนต์ ev ก็ยังลูกผีลูกคน หลังจาออเดอร์ใหญ่ก็ไม่ค่อยมีคำสั่งซื้อใหญ่ๆเข้ามา
ถ้าไม่ไหวอาจต้องขายสินทรัพย์ เช่นโรงไฟฟ้า หรือโรงงานแบตและประกอบรถ
ส่วนแหล่งท่มาของเงิน อาจต้องเพิ่มทุน หรือหาแบงค์ให้ช่วย หุ้นกู้น่าจะออกยากแล้ว
.
สรุปคือระยะสั้นผ่านไปได้ ส่วนระยะกลางถึงยาว ยังมาว่าเป็นโจทย์ที่ยากอยู่ หวังว่าจะผานพ้นไปได้ด้วยดีนะครับ สู้ๆ


=======================================

อ่านหนังสือมาเยอะแต่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก


รวม 3 หลักสูตร Online ในคอรสเดียว เรียนจบวิเคราะห์หุ้นได้ทุกตัวในตลาด


✅เเจาะงบราย sector + ประเมินมูลค่า + แกะงบทุกตัวในตลาด(ปีละครั้ง) และสรุปงบ ทุกไตรมาส
✅เรียนOnlineผ่านวิดิโอในfacebookกลุ่มปิด ความยาวกว่า 60 ชั่วโมง
✅ดูได้ตลอดชีพ ไม่มีลบคลิป และไลฟอัพเดทเนื้อหาให้ทันสมัยตลอดเวลา
✅สงสัยถามได้ตลอดเวลา

☀เรียนแล้วได้อะไร☀


✅ดูการ เกิดขึ้นตั้งอยู่และถดถอย ของธุรกิจผ่านงบการเงิน
✅แต่ละช่วงเศรษฐกิจ sector ไหนไป sector ไหนมา และเครื่องมือดูแบบ real time
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่มการเงิน คุณภาพลูกหนี้ดูตรงไหน
✅กลุ่มธุรกิจบริการ การเติบโต จุดคุ้มทุนดูอย่างไร
✅โรงแรม สื่อสาร ค้าปลีก
✅การวิเคราะห์ธุรกิจผลิต เทคนิคดูกำลังการผลิตของโรงงาน เมื่อไรจะต้องขยายโรงงานใหม่
✅ประสิทธิภาพโรงงานเป็นอย่างไร ใครดีใครด้อย เผยชัดๆ
✅การวิเคราะห์ธุรกิจ ซื้อมาขายไป สิ้นค้าค้างสต็อก เก็บเงินไม่ได้ดูอย่างไร
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่มรับเหมา
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์ แบบไวๆ จะโอนได้เมื่อไร
✅การวิเคราะห์หุ้น วงจร รอบมา รอบไป สัญญาณในงบการเงิน
✅หุ้น turn around เจ้ากำลังแอบทำโปรเจกอะไรในงบการเงิน
✅การประมเนมูลค่าของแต่ละ sector ว่ามมีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร

🔈สอนโดย อ ภัทรธร ช่อวิชิต
นักลงทุนอิสระ เจ้าของผลงานหนังสือ คุ้ยแคะแกะหุ้นเด้ง และเจาะหุ้นร้อนสแกนหุ้นเด้ง

=======================================
แคปรูปตรงนี้มาได้ส่วนลดพิเศษจากปกติ 5000 บาท เหลือเพียง 2,800 บาทเท่านั้น
☎ติดต่อสอบถามและลงทะเบียน (รับจำนวนจำกัด)
line id; pat4310

เพิ่มเพื่อน
=======================================

วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

เปิดงบการเงินมาไม่รู้เร่มอ่านตรงไหน งบดุล งบกำไรขาดทุน งบกระแสเงินสด บทความนี้มีคำตอบ

เปิดงบการเงิน factsheet ใน set มาไม่รู้เริ่มอ่านตรงไหน งบดุล งบกำไรขาดทุน งบกระแสเงินสด งงไปหมด บทความนี้มีคำตอบ ไปดูกันเลย

1.งบดุล บอกความแกร่งของธุรกิจ เหมือนจัดกองทัพก่อนเข้าตี


ดูโครงสร้างสินทรัพย์


บริษัทที่สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนเยอะ มักเป็น ธุรกิจบริการ หรือโรงงานสินค้าทุนเช่นปูน เหล็ก
บริษัทที่สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนเยอะ มักเป็น ธุรกิจซื้อมาขายไป โรงงานสินค้าอุปโภคบริโภคท่ี่เครื่องจักรไม่แพง อสังหา (สินค้าคงเหลือ รับเหมา (สินทรัพย์ตามสัญญา+ลูกหนี้) การเงิน (เงินให้สินเชื่อ

โครงสร้างหนี้สอดคล้อง กับโครงสร้างสินทรัพย์


บริษัท ที่สินทรัพย์หมุนเวียนเยอะ จะมีหนี้หมุนเวียนเยอะ
บริษัทที่มีสินทรัพยย์ไม่หมุนเวียนเยอะ จะมีหนี้ไม่หมุนเวียนเยอะ

ดูการเติบโต

บริษัทที่กำลังเติบโตต้องเห็นการลงทุนก่อน
ผลิต บริการ ที่ดินอาคารอุปกรณ์เพิ่ม แปลว่าขยายกิจการ
ซื้อมาขายไป ลงสินค้าคงเหลือเพิ่ม
อสังหา ลงสินค้าคงเหลือเพิ่ม
รับเหมา มีเงินรับล่วงหน้าเพิ่ม ลูกค้าจ่ายมัดจำ ถ้ารับรู้แบบตอนส่งมอบจะมีงานระหว่างทำเพิ่ม
ธนาคาร ไฟแนนซ์ เงินให้สินเชื่อเพิ่ม
ทวงหนี้ เงินให้สินเชื่อเพิ่ม (ซื้อหนี้มาทวง)

อัตราส่วนทางการเงินที่ต้องดูประกอบ

DE ratio เยอะๆเสี่ยง
วงจรเงินสด เยอะใช้เงินหมุนเวียนเยอะ อาจมีปัญหาสภาพคล่อง
ระยะเวลาเก็บหนี้ เพิ่มขึ้น อาจมีการสร้างยอดขายเทียม มีปัญหาเก็บหนี้
ระยะเวลาขายสินค้า เพิ่ม อาจมีปัญหาสินค้าล้นสต็อก
ระยะเวลาชำระเจ้าหนี้ ลดลง อาจมีัญหา supplier เหม็นขี้หน้าเพราะจ่ายช้า เลยต้องขอเงินสด หรืออยยากจ่ายเงินสดเอกเพราะจะต่อรองเอาส่วนลด
อัตราหมตเวียน ทรัพย์สิน ลดลง อาจมีปัญหา ลงทุนเกินตัว เงินจม แต่ไม่สร้างรายได้กลับมา

2.งบกำไรขาดทุน


บอกฝีมือผู้บริหารในการนำทัพเข้าตี แย่งชิงเงินจากลูกค้า

อยากกเห็น รายได้เพิ่ม กำไรเพิ่ม
อัรากำไรสม่ำเสมอ

อัตราส่วนทางการเงินที่ดูประอบ

อัตรากำไรขั้นต้นลดลง อาจมีปัญหาการแข่งขึ้น ลดราคาสต็อกเลหลัง ขาดทุนราคาสินค้า โรงงงานหรือสาขาใหม่ ลูกค้าไม่ถึงจุดคุ้มทุน
ค่าใช้จ่ายขขายและบริหารเพิ่ม อาจเป็นปัญหาช่วงขยายสาขา โรงงานใหม่ต้องจ้างคนมาก่อน
ดอกเบี้ยเพิ่ม มีปัญหาหนี้สินเยอะ

3.งบกระแสเงินสด


ดูสภาพคล่อง การลงทุน และหนี้ทุน

cfo บอกสภาพคล่อง
เกิดจาก กำไรบัญชี +- ค่าใช้จ่ายไม่ใช่เงินสด ได้กำไรเงินสด
เอากำไรเงินสด ไปหักเงินทุนหมุนเวียน คือ การเปลี่ยนแปลงใน หนี้สินหมุนเวียนและสินทรัพย์หมุเวียน
หักภาษี ได้ CFO

เป็นบวกและมากกว่ากำไรดี

cfi บอกการลงทุน

เป็นลบ แสดงว่าจ่ายเงินซื้อ สินทัพย์ไม่หมุนเวียนเยอะ

CFF บอกการจัดหาเงิน

บวกแปลว่า กู้หรือเพิ่มทุนมา
ลบแปลว่า จ่ายหนี้เงินต้น ดอกเบี้ย ปันผล


=======================================

อ่านหนังสือมาเยอะแต่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก


รวม 3 หลักสูตร Online ในคอรสเดียว เรียนจบวิเคราะห์หุ้นได้ทุกตัวในตลาด


✅เเจาะงบราย sector + ประเมินมูลค่า + แกะงบทุกตัวในตลาด(ปีละครั้ง) และสรุปงบ ทุกไตรมาส
✅เรียนOnlineผ่านวิดิโอในfacebookกลุ่มปิด ความยาวกว่า 60 ชั่วโมง
✅ดูได้ตลอดชีพ ไม่มีลบคลิป และไลฟอัพเดทเนื้อหาให้ทันสมัยตลอดเวลา
✅สงสัยถามได้ตลอดเวลา

☀เรียนแล้วได้อะไร☀


✅ดูการ เกิดขึ้นตั้งอยู่และถดถอย ของธุรกิจผ่านงบการเงิน
✅แต่ละช่วงเศรษฐกิจ sector ไหนไป sector ไหนมา และเครื่องมือดูแบบ real time
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่มการเงิน คุณภาพลูกหนี้ดูตรงไหน
✅กลุ่มธุรกิจบริการ การเติบโต จุดคุ้มทุนดูอย่างไร
✅โรงแรม สื่อสาร ค้าปลีก
✅การวิเคราะห์ธุรกิจผลิต เทคนิคดูกำลังการผลิตของโรงงาน เมื่อไรจะต้องขยายโรงงานใหม่
✅ประสิทธิภาพโรงงานเป็นอย่างไร ใครดีใครด้อย เผยชัดๆ
✅การวิเคราะห์ธุรกิจ ซื้อมาขายไป สิ้นค้าค้างสต็อก เก็บเงินไม่ได้ดูอย่างไร
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่มรับเหมา
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์ แบบไวๆ จะโอนได้เมื่อไร
✅การวิเคราะห์หุ้น วงจร รอบมา รอบไป สัญญาณในงบการเงิน
✅หุ้น turn around เจ้ากำลังแอบทำโปรเจกอะไรในงบการเงิน
✅การประมเนมูลค่าของแต่ละ sector ว่ามมีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร

🔈สอนโดย อ ภัทรธร ช่อวิชิต
นักลงทุนอิสระ เจ้าของผลงานหนังสือ คุ้ยแคะแกะหุ้นเด้ง และเจาะหุ้นร้อนสแกนหุ้นเด้ง

=======================================
แคปรูปตรงนี้มาได้ส่วนลดพิเศษจากปกติ 5000 บาท เหลือเพียง 2,800 บาทเท่านั้น
☎ติดต่อสอบถามและลงทะเบียน (รับจำนวนจำกัด)
line id; pat4310

เพิ่มเพื่อน
=======================================

วันจันทร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2566

franchise PE ที่มาและการใช้งาน

franchise PE เป็นการหา PE รูปแบบหนึ่ง มีความเชื่อว่า บริษัทมีมูลค่าสูง เกินจากเอาเงินไปลงทุนแล้วทำผลตอบแทนมากกว่า ต้นทุนเงินทุน WACC ได้เยอะๆ

1 การคำนวณ franchise PE


มูลค่าเหมาะสม มี 2 ส่วน

P = TV + FV   (1)

TV tangible vaue เป็นมูลค่าที่เป็นผลจากการลงทุนในปัจจุบัน
FV franchise value มูลค่าที่เกิดจากนำกำไรดำเนินงานไปลงทุนต่อ แทนที่จะปันผลไป

TV = E/k  (2)

E = กำไร = ROE x Book value
k = อัตราคิดลด

FV แบ่งได้เป็น 2 ส่วน คือผลตอบแทนจากการลงทุนใหม่ (franchise factor) และมูลค่าปัจจุบันขของโครงการใหม่เทียบกับมูลค่ากิจการในปัจจุบัน (growth factor)


ผลตอบแทน = R - k

มูลค่าปัจจุบันของผลตอบแทนส่วนเกิน

PV(excess return) = (R-k) / k   (3)

หา FV ได้ด้วย

FV =  ((R-k) / k ) x PV new investment   (4)

มูลค่าปัจจุบันของโครงการใหม่เที่ยบกับ bv

G = PV new investment / B   (5)

โดยที่ B = มูลค่าทางบัญชี

แทนค่าใน FV

FV =  ((R-k) / k ) x GxB   (6)

เอา (2) (6) แทนค่าใน (1)

P = TV + FV
P = (E/k) + ( ((R-k)/k)x G x B )
P = ((ROE x B)/k) + ( ((R-k)/k)x G x B )

เอา E หารตลอด

PE = 1/k + ( ((R-k)/ROE x k) x G )   (7)

leibowitz and kogelman (2000) กำหนด franchise fator (FF) คือ

FF = (R-k)/ROE x k

แทนค่า

PE = 1/k + ( FF x G ) (8)

2 การหา Franchise Factor (FF) และ growth factor (G)


มันก็คำนวณยากอยู่ดีแหละ อ sanpong.limthamrongkul [1] เอามาคิดต่อ

Franchise Factor (FF) เกิดเมื่อ กิจการสร้างผลตอบแทน ROE ได้มากกว่า k ตัวนี้ก็คือ EVA (Economic Value Added) ถ้ากิจการไหนทำ ROE = k ก็ไม่เกิด Franchise Factor (FF)

FF = (R-k)/ROE x k
= R/(ROE x k) - k/(ROE x k)

ให้ R = ROE
จะได้
FF = 1/k - 1/ROE



Growth Factor (G) กรณีนี้ ในแต่ละปีทำ EVA เป็นบวก (ROE > k) ระยะยาวก็ประยุกต์ Gordon Model มาใช้ จาก P = D/(k-g) growth แต่ละปีที่เก็บไว้ก็มาสร้าง growth ขนาดอัตราเดียวกันไปตลอด ค่า growth ในระยะยาว จึงเท่ากับ g/(k-g)

[1] https://www.facebook.com/sanpong.limthamrongkul/posts/pfbid02j2jTwEWLk9fW1Sf7EW8YxeWXM9Cfh8bRCp4k7UXmdYfP4vvJZkgt7zNvvZBevoBUl
=======================================

อ่านหนังสือมาเยอะแต่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก


รวม 3 หลักสูตร Online ในคอรสเดียว เรียนจบวิเคราะห์หุ้นได้ทุกตัวในตลาด


✅เเจาะงบราย sector + ประเมินมูลค่า + แกะงบทุกตัวในตลาด(ปีละครั้ง) และสรุปงบ ทุกไตรมาส
✅เรียนOnlineผ่านวิดิโอในfacebookกลุ่มปิด ความยาวกว่า 60 ชั่วโมง
✅ดูได้ตลอดชีพ ไม่มีลบคลิป และไลฟอัพเดทเนื้อหาให้ทันสมัยตลอดเวลา
✅สงสัยถามได้ตลอดเวลา

☀เรียนแล้วได้อะไร☀


✅ดูการ เกิดขึ้นตั้งอยู่และถดถอย ของธุรกิจผ่านงบการเงิน
✅แต่ละช่วงเศรษฐกิจ sector ไหนไป sector ไหนมา และเครื่องมือดูแบบ real time
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่มการเงิน คุณภาพลูกหนี้ดูตรงไหน
✅กลุ่มธุรกิจบริการ การเติบโต จุดคุ้มทุนดูอย่างไร
✅โรงแรม สื่อสาร ค้าปลีก
✅การวิเคราะห์ธุรกิจผลิต เทคนิคดูกำลังการผลิตของโรงงาน เมื่อไรจะต้องขยายโรงงานใหม่
✅ประสิทธิภาพโรงงานเป็นอย่างไร ใครดีใครด้อย เผยชัดๆ
✅การวิเคราะห์ธุรกิจ ซื้อมาขายไป สิ้นค้าค้างสต็อก เก็บเงินไม่ได้ดูอย่างไร
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่มรับเหมา
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์ แบบไวๆ จะโอนได้เมื่อไร
✅การวิเคราะห์หุ้น วงจร รอบมา รอบไป สัญญาณในงบการเงิน
✅หุ้น turn around เจ้ากำลังแอบทำโปรเจกอะไรในงบการเงิน
✅การประมเนมูลค่าของแต่ละ sector ว่ามมีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร

🔈สอนโดย อ ภัทรธร ช่อวิชิต
นักลงทุนอิสระ เจ้าของผลงานหนังสือ คุ้ยแคะแกะหุ้นเด้ง และเจาะหุ้นร้อนสแกนหุ้นเด้ง

=======================================
แคปรูปตรงนี้มาได้ส่วนลดพิเศษจากปกติ 5000 บาท เหลือเพียง 2,800 บาทเท่านั้น
☎ติดต่อสอบถามและลงทะเบียน (รับจำนวนจำกัด)
line id; pat4310

เพิ่มเพื่อน
=======================================