วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

EARTH กับเรื่องวุ่นๆของเงินทุนหมุนเวียน

EARTH : บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทโฮลดิ้งคอมปานีเพื่อลงทุนในธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายถ่านหินทั้งในและต่างประเทศ

ช่วงนี้ผู้บริหารเก่งครับ ธุรกิจเติบโต กำไรโต

ราคาหุ้นก็เลยซิ่งไปด้วย
มาดูงบกระแสเงินสด ที่น่าแปลกใจก็คือ ตั้งแต่ปี 2554 กำไรสุทธิเป็นบวก แต่กระแสเงินสดจากการดำเนินงานติดลบ ทำมาหากินแล้วเงินหายไปไหน ต้องจัดหาเงินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งกู้และเพิ่มทุน
มาเจาลึกรายละเอียดกันซะหน่อย

ทีน่าสนใจก็คือ เงินจมไปกับสินทรัพย์หมุนเวียนเยอะมาก
  • ลูกหนี้การค้าเพิ่มขึ้น 1435 ล้าน
  • สนิค้าคงเหลือเพิ่มขึ้น 1064 ล้าน
  • และสินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 1418 ล้าน
 มาดูกันว่าลูกหนี้การค้า กับสินค้าคงเหลือที่เพิ่มขึ้นเป็นรอบปกติของธุรกิจหรือเปล่า ถ้าระยะเวลาเก็บหนี้ กับระยะเวลาขายสินค้ายังนิ่งๆ ก็สบายใจว่าเป็นปกติของธุรกิจ

ตัวเลขเริ่มผิดปกติ
  • ระยะเวลาเก็บหนี้สูงขึ้นเรื่อยๆ จาก 29.59 วันในปี 53 มาเป็น 60.95วัน และ85.44 วัน ในปี 54 และ 55 ตามลำดับ นี่MDเพิ่มเครดิตการค้าให้ลูกค้า? หรือมีหนี้เสีย?
  • ระยะเวลาขายสินค้าก็ตัวเลขสูงขึ้น ตุนอะไรไว้เยอะเยะหนอ

เจาะรายละเอียดเรื่อง ลูกหนี้การค้า

จากหมายเหตุประกอบงบข้อ 8 เรื่องลูกหนี้การค้า ลูกหนี้ประมาณ 73% (2,010/2,719*100) ยังอยู่ในกำหนดชำระเดาว่า
  • อยากขายของก็เพิ่มเครดิตให้
  • อยากให้งบกำไรขาดทุนงวดนั้นโต ก็อัดยอดขายให้อยู่ในงวดนั้นเยอะ เพราะนักบัญชีเขาบันทึกเกณฑ์คงค้าง ขายได้งวดไหนก็บันทึกกำไรงวดนั้นแหละ เก็บตังค์ได้หรือเปล่าอีกเรื่อง

มาดูเรื่องสินค้าคงเหลือกันบ้าง

 สินค้าคงเหลือส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบ 1,117 ล้าน น่าจะเป็นถ่านหินในเหมืองกระมัง น่าจะปกติ (เดา)

เมื่อร้อนเงินก็ต้องหาเงิน


จากงบดุลจะเห็นว่าจากการที่ธุรกิจโตไวและต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนเยอะ (ลูกหนี้การค้า และสินค้าคงเหลือ) ก็ต้องหาเงินมาหมุน ไม่ว่าหนี้สิน เพิ่มจาก 992.92 ล้านบาทในปี 2553 เป็น 2,263.54 ล้านบาท และ 5,420 ล้านบาทในปีะ 2554 และ 9 เดือน 2555 ตามลำดับ

หรืออาจต้องเพิ่มทุนเป็นว่าเล่น เร็วๆนี้ก็เอาหุ้นไปจดทะเบียนหาตังค์ที่ตลาดเยอรมัน

วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ตารางคำนวณอิสรภาพทางการเงิน

อิสรภาพทางการเงินเป็นสิ่งที่ใครๆก็อยากมีครับ นิยามก็คือคนที่มีรายได้จากการทรัพย์สินมากกว่ารายจ่ายประจำ ซึ่งมันเป็นการเดินทางระยะยาวครับ สรุปจากหนังสือ "เงินสี่ด้าน" เขาว่า

รายได้มีสองทางใหญ่ๆ

  1. ต้องทำถึงได้เงิน ประกอบด้วย พนักงาน ธุรกิจส่วนตัว ต่อไปเรียกรายได้ A
  2. นั่งๆ นอนๆ นานๆมาดูทีก็ได้เงิน เจ้าของธุรกิจ(ให้ลูกน้องทำ) กับ นักลงทุน (กินดอกผล) ต่อไปเรียก รายได้ B

คนทั่วไปที่ไม่มี back ทางบ้านกว่าจะมีอิสรภาพทางการเงินต้องผ่านเส้นทางดังนี้

  • รายได้ A < รายจ่ายประจำ = จน
  • รายได้ A > รายจ่ายประจำ = รวย
  • รายได้มาจากสองทางคือ รายได้ A + รายได้ B > รายจ่ายประจำ = มั่งคั่ง
  • ถ้า รายได้ A = 0 และ รายได้ B > รายจ่ายประจำ = อิสรภาพทางการเงิน

บางคนตั้งเป้าไว้ไกลเกิน ก็อาจท้อไปซะก่อน เพื่อไม่ให้ท้อระหว่างทาง เราต้องแบ่งเป้าหมายเป็นขั้นย่อยๆครับจะได้ทำได้ง่ายขึ้น โดยแบ่งเป็น

  • ผลตอบแทนจากทรัพย์สินเท่ากับค่าแรงขั้นต่ำ
  • ผลตอบแทนจากทรัพย์สินเท่ากับเงินเดือนปริญญาตรี
  • ผลตอบแทนจากทรัพย์สินเท่ากับเงินเดือนปริญญาโท
  • ผลตอบแทนจากทรัพย์สินเท่ากับเงินเดือนผู้จัดการ
  • ผลตอบแทนจากทรัพย์สินเท่ากับเงินเดือนกรรมการผู้จัดการ

ลองคำนวณได้ตามตารางได้เลยครับโดยใส่เงินออมต่อเดือน และผลตอบแทนต่อปีในช่องสีเหลือง ตารางจะคำนวณ เงินทุนเป้าหมายที่ต้องมี และระยะเวลาที่จะลงทุนให้ถึงเป้าหมายแต่ละขั้นให้ครับ



จะเห็นว่าถ้าเริ่มจากไม่มีอะไรเลย ผลตอบแทนขั้นแรกหายากที่สุดแล้วครับ ออมเดือนละ 2000 ผลตอบแทน 10% ต่อปี แค่จ๊อบพิเศษ ต้องใช้เวลาลงทุนถึง 10 ปี เพื่อให้เราถึงอิสรภาพทางการเงินไวขึ้นต้องมีเร่งครับ

  • เร่งเงินออม (ลงทุน)
    • เงินออม = รายได้ - รายจ่าย
    • หาวิธีเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายให้ได้เพื่อมีเงินมาออมมาลงทุนมากขึ้น
  • เร่งผลตอบแทน
    • ระดับผลตอบแทนจะสัมพันธ์กับระดับความรู้ รู้กว้าง รู้ลึก รู้จริง ทำให้เราได้เปรียบครับ 
แต่สุดท้ายอิสรภาพทางการเงินก็ไม่ได้บอกว่าถึงแล้วจะมีความสุข มีความสุขทุกตลอดเวลาที่ลงทุนสำคัญที่สุดครับ

เจริญในการลงทุนทุกท่าน