วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2556

tpoly จะ turn around?


tpoly บริษัทรับเหมาเล็กๆ ที่เข้ามาระดมทุนใน ตลาด mai เริ่มคิดการใหญ่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว โดยการระดมทุนเพิ่มเป็น 420 ล้านเพื่อย้ายเข้า set พร้อมความฝัน การเจริญเติบโตจากธุรกิจเดิม และธุรกิจใหม่คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และโรงไฟฟ้าชีวมวล

ธุรกิจก่อสร้าง

  • มีการนำระบบ ERP เข้ามาประยุกต์ ทำให้ควบคุมประสิทธิภาพและต้นทุนดีขึ้น
  • เติบโตโดยรับงานที่ใหญ่ขึ้น สมัยก่อนเป้ารายได้ 3000 ล้านต้องรวมงานเล็กๆ 100 ล้านเกือบ 30 งาน เดี๋ยวนี้รับงาน 500 ล้าน 6 งานก็ได้เป้า กำไรดีกว่าด้วย
  • ปี 55 ที่ผ่านมาประสบปัญหา วัสดุก่อสร้างราคาพุ่ง ค่าแรงราคาเพิ่ม แต่รายได้ไม่เพิ่มเพราะเซ็นต์ไว่ก่อนน้ำท่วม งานที่รับมาใหม่ๆก็ดีขึ้น

  ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

  • โครงการกรีนิชที่รามอินทราเริ่มโอนได้ในปีนี้ ทำเลดีอยู่ข้างๆ makro รามอินทรา มีรถไฟฟ้าสายสีชมพูผ่านหน้าโครงการ
  • มีที่ดินเหลืออีก 6 ไร่หน้าโครงการวางแผนจะสร้างคอนโด

 ธุรกิจโรงไฟฟ้า

  • ตอนนี้มีอยู่ในแผน 4 โรงเป็นโรงไฟฟ้าจากเศษไม้ยางบ้าง ขุยมะพร้าวบ้าง 
  • สร้างเสร็จและจ่ายไฟแล้ว 1 โรงเมื่อ 15 มีนาคมที่ผ่านมา
  • มีโรงไฟฟ้ากำลังศึกษาอยู่ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และที่ประเทศลาวลาว
ประมาณการรายได้ และกำไรของ TPOLY ในปี 2013 - 2016

เขาจะทำความฝันให้เป็นจริงได้หรือไม่คอยติดตามกันครับ

คุณ Zhao Yun เข้าฟัง OppDay 1Q56 แล้วสรุปไว้ใน facebook (https://www.facebook.com/ZhaoyunHi/posts/486515188083164) ดังนี้คับ

TPOLY ; RoadMap 2558-60; 11/06/56 (OppDay 1Q56)


  1. เสร็จการแปลงTPOLY-W1 มีการใช้สิทธิ์ 99% หุ้นที่แปลงจะเข้าปลายเดือนมิย 56 บริษัทได้เงิน 126 ล้านบาท
  2. คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมติให้ออกเสนอขายตั๋วเงินระยะสั้น ในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 500 ล้านบาท อายุไม่เกิน 270 วัน เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต (อัตราดอกเบี้ย5.25-5.50%)


ธุรกิจ 4 ส่วน คือธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง, ธุรกิจโรงไฟฟ้า,ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์, ธุรกิจTrading

1.Construction Business


  1. มีBacklog สิ้น 1Q56 2,935 ล้านบาท
  2. กำลังเข้าประมูลงานมูลค่า 10,000 ล้านบาท คาดว่าจะได้25-30% เตรียมประมูลช้อปปิ้ง มอลล์ 4 แห่ง มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ตอนนี้ได้งานShopping Mall 1แห่ง มูลค่า500ล้านบาทแต่ยังไม่ได้ประกาศ รวมงานเดิมที่ได้มาแล้ว1,000ล้านเป็น1,500ล้าน รายได้เติบโตขึ้นจากปี2555ประมาณ 25 – 30%
  3. หลังจากรับรู้รายได้ทั้งหมดปีแล้ว คาดว่าจะมีBacklogใหม่ที่สิ้นปีอีก2556 3,400 ล้านบาท(ของปี57)


พื้นฐานเพิ่มเติม

  1. งานธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง บริษัทเน้นกลยุทธ์รับงานที่มีอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 12-15% หรือต้องมีมูลค่าโครงการ 400 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อมีกำไรสุทธิให้ได้มากขึ้น ตั้งเป้าสัดส่วนลูกค้าภาครัฐประมาณ 49% และภาคเอกชน 51%
  2. เมื่อปี2555ได้การตั้งสำรองก้อนใหญ่เป็นโครงการก่อสร้างแถวจตุจักรซึ่งลูกค้ามีปัญหาด้านการหาเงินทุนขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนทางกฎหมายได้ตั้งสำรองไว้ทั้งจำนวนเพื่อให้ conservative ที่สุด ถ้าในอนาคตสามารถเคลียร์ปัญหาได้ จะกลับเป็นกำไรมาในบัญชี (ขาดทุนตัวเลขทางบัญชี)
  3. เป็นผู้เชี่ยวชาญและมีความเข้าใจประชาชนในพื้นที่ทางภาคใต้ และสามจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งมีคู่แข่งน้อย และมีงานภาคใต้35%ของพอร์ตรับเหมาก่อสร้าง
  4. ถ้าพรบ2ล้านล้านบาทออกมา ซึ่งเป็นงานด้านก่อสร้างคมนาคมและสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ ส่งผลดีต่อกลุ่มรับเหมาทั้งกลุ่มมีงานต่อเนื่อง7ปี


2.Energy Business(TPC Power Holding99.99%)


  1. สรุปผลทำFAของบริษัทTrinity เกี่ยวกับ TPC power Holding ว่าจะระดมเงินทุนสร้างรฟฟ.ชีวมวล 3 แห่ง 300-400 ล้านบาทในสิ้นเดือน มิย56 ทางเลือกอยู่ทั้งหมด 4 แนวทาง ได้แก่ การกู้เงินจากธนาคาร, การใช้เงินสดหมุนเวียนของบริษัทฯ, การออกวอแรนท์ และ การจัดตั้งกองทุนสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และหาแนวทางการจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งและเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนเป็นครั้ง แรก(IPO)เพื่อระดมทุนไปลงทุนในโรงไฟฟ้าในอนาคต เพื่อไปสู่เป้าหมายที่จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 100 เมกวัตต์ภายในปี 2560
  2. รฟฟ.ชีวมวลทุ่งสัง กรีนและมหาชัย กรีนเพาเวอร์(VSPP)ทั้งสองได้ผ่านเงินกู้แบงค์แล้ว ไม่มีปัญหามวลชนประท้วงคัดคานแล้ว อบต.เซ็นอนุมัตทุกทีแล้ว รอใบรง.4 ภายใน2เดือนแต่ที่มหาชัย กรีนเพาเวอร์น่าจะได้ก่อน และพร้อมก่อสร้างได้ คาดว่าจะสร้างเสร็จ 3Q57 ทั้งสองโรงไฟฟ้า ใช้เวลาก่อสร้าง 15เดือนและรฟฟ.ชีวมวลบางสะพานน้อยได้ยืนขอใบ รง.4 ไปแล้วรอผลภายใน 2เดือนเช่นกัน
  3. คาด 4Q57-1Q58 ทำSpin-Offหุ้นTPC Power Holding (TPCP) นักลงทุนถือหุ้นTPOLYได้สิทธิ์จองหุ้นIPOตามสัดส่วนของหุ้น(อัตราส่วน15:1หรือ20:1ราคาพาร์1บาท)
  4. หลังจากทำIPO หุ้นTPOLYจะถือหุ้นTPCPสัดส่วน50+% ยังรับรู้การเติบโตต่อเนื่องของหุ้นTPCPที่จะเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจาก40MWเป็น100MW ภายในปี2560
  5. หลังTPCP เข้าตลาดหุ้นหมวดพลังงานมีการเติบโตต่อเนื่องได้อีกมาก เพราะมีการสร้างรฟฟ.ชีวมวลต่อจาก 40MW เป็น 100MW แต่ถ้าเปลี่ยนตัวหุ้นจากTPOLYมาลงทุนตัวTPCPเป็นตัวหลักแทนได้ เพราะรฟฟ.ชีวมวลจะมีNPMสูงถึง 30% หลังจากได้จ่ายเงินกู้แบงค์และดอกเบี้ยทำให้ลดรายจ่ายลดทุกๆปี ทำส่งผลต่อNPMสูงขึันปีต่อๆไปนั้นเอง และยังน่าสนใจกว่าและสามารถคาดหวังผลตอบแทนได้ดีกว่า
  6. .ส่วน รฟฟ.บางสะพานน้อยคาดว่าจะเสร็จ 1Q58 กำลังผลิต10MW
  7. ภายในปี 2558 จะมีการสร้าง รฟฟ.ชีวมวล เสร็จรวมกำลังผลิต 4 แห่ง รวม40MW
  8. แผนงานศึกษา รฟฟ.ชีวมวลที่ภาคเหนือตอนล่าง(กำแพงเพชร10MW,นครสวรรค์10MW)20MWมีใบรง.4และใบPPAแล้ว, พัทลุง10 MW, นครศรีธรรมราช10MW, สามจังหวัดชายแดนภาคใต้(ปัตตานี20MW,XXX 10MW,YYY 10MW) รวมทั้งหมด80MW แต่อาจสร้าง 60MWน่าจะตัดสามจังหวัดชายแดนออกไป20MW
  9. คาดสร้าง รฟฟ.ชีวมวลปัตตานี(SPP)20MWเสร็จภายในปี 2560 ที่ปัตตานีจะมีรายได้เพิ่มขึ้นมากเพราะได้ค่า Adderเพิ่มเป็น 1.30 บาทต่อหน่วยในพื้นฐานเสี่ยงภัย ส่วนที่อื่นๆของ รฟฟ.ชีวมวลได้ 0.30 บาทต่อหน่วย
  10. ตั้งเป้าจะมี รฟฟ.ชีวมวล 100MWภายในปี2560แน่นอน
  11. คาดสร้าง รฟฟ.พลังน้ำที่ สปป.ลาว(SPP)อีก 2 แห่ง (50MW+80MW) รวมทั้งสิ้น 130MW
  12. ทำให้รวมกำลังผลิตของ รฟฟ.ชีวมวล100MWและรฟฟ.พลังน้ำที่ลาว 130MW รวมทั้งหมด 230MW ภายในปี2560
  13. คาดว่าสิ้นปี2559ได้รายได้จากCarbon Credit จำนวน40ล้านบาท จากรฟฟ.ชีวมวลจำนวน40MW ที่จะสร้างเสร็จในปี 2558 ( รายได้ 10.6ล้านบาทต่อ10MW ต่อปี,มีCDM35,000ตันต่อปีต่อรฟฟ,ขาย 8 EURต่อตัน,คิดที่ EUR/Bath 38.00 บาท)


พื้นฐานเพิ่มเติม

  1. นโยบายการพัฒนาพลังงานทดแทนของ EGAT มีเป้าหมายผลิตไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวลให้ได้ 3,630MWภายในปี 2564 ปัจจุบันผลิตได้ 1,600MW มีนโยบายของรัฐ “1 อำเภอ 1 โรงไฟฟ้าชีวมวล” และมีสัดส่วนการเพิ่มที่มากกว่าพลังงานทางเลือกอื่นๆ
  2. ใบรง.4 คือใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง.4), ใบPPA คือใบอนุญาตการซื้อขายไฟฟ้า (PPA)
  3. TPC Power Holding Co., Ltd. ทุนจดทะเบียน 200ล้านบาท จำนวน20,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท พาร์ 10 บาท, TPCPถือCRB 73%, TSG65%,MCH46%,BBRP85%[CRB;COD15/03/56,70mKwh/Y,250MTHB/Y ]
    [TSG;COD3Q14,70mKwh/Y,250MTHB/Y]
    [MHL;COD3Q14,64mKwh/Y,220MTHB/Y]
    [BBRP;COD1Q15,64mKwh/Y,230MTHB/Y]
  4. ต้องใช้เงินลงทุนแต่ละ รฟฟ.ชีวมวล200ล้านบาทลงทุน[CRB 73%=146, TSG65%=130,MCH46%=92,BBRP85% =170]รวมเท่ากับ538ล้านบาท มีทุนจดเทียบแล้ว 200ล้านบาท ยังขาดอีก 538-200=338 ล้านบาท ต้องหาเงินทุนเพิ่มอีก350ล้านบาท
  5. คิดรายได้ขายไฟฟ้าปี2558ได้ [CRB 73%=182.5, TSG65%=162.5,MCH46%=101.2,BBRP85% =195.5]เท่ากับ641.7ล้านบาท
    ถ้าถือTPCP100%=641.7,NPM 30%192.5ล้านบาท,
  6. ได้ค่าAdderเพิ่ม0.30บาทต่อหน่วย แต่รฟฟ.ชีวมวลที่ปัตตานีจะได้ adderเพิ่ม1.30บาทต่อหน่วยได้ 7ปีแรก และมีสัญญาซื้อไฟฟฟ้าต่อเนื่อง25ปี มีสิทธิ์BOI 8 ปี ไม่ต้องเสียภาษีนิติบุคคล
  7. กำลังผลิตไฟฟ้าของ รฟฟ.ชีวมวลช้างแรก ตอนนี้ผลิตเฉลี่ยได้ 190,000 หน่วยต่อวัน เป้าหมาย 200,000หน่วยต่อวัน ได้CODวันที่15/03/56 และรฟฟ.ชีวมวลดีกว่า Solar/Wind ตรงที่ถึง Adder หมดรายได้ก็ไม่ได้ลดลงอย่างมากๆ และกำหนดชะตาชีวิตตนเองในการผลิตไฟฟ้าไม่ต้องหวังพึ่งแดดพึ่งลม และถ้าเดินเครื่องแล้วโอกาสที่รฟฟ.ชีวมวลอื่นๆจะมาตั้งใกล้ๆหมดสิทธิ์นั้นเอง(รัศมีต้องห่าง100กิโลเมตร)
  8. การขาย Carbon Credit ได้ของ รฟฟ.ชีวมวลต้องเดินเครื่องครบ1ปีก่อน ถึงขายในปีที่2ได้ สัญญาซื้อระยะยาวจากบริษัทEnBWต่อเนื่อง 10 ปี ขาย 8 EUR ต่อตัน

3.Real Estate Business (TPC Asset99.99%)


  1. เริ่มโครงการTownHome 3 ชั้น(Greenwich)ในพื้นที่18ไร่ จำนวน174ยูนิต มูลค่า750ล้าน ยอดจองตอนนี้ 213ล้านบาทคิด30% คาดจะปิดโครงการ 2Q57
  2. ปรับราคาขายจากยูนิท 3.69เป็น3.99ล้านบาท ทำให้NPM 7>10% เป้ายอดขายปีนี้ 250-300ล้านบาท
  3. เริ่มโครงการคอนโดมิเนียม (สูง 40 ชั้น ขาย50,000 บ.ต่อตรม.)มูลค่า 2,000ล้านบาทในพื้นที่6ไร่ เริ่มก่อสร้าง 2558 สร้างเสร็จใช้เวลา3ปี (2560) ติดรถไฟฟ้าBTSสายสีชมพู (แยกแคราย-แยกปากเกร็ด-มีนบุรี) คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้2560


พื้นฐานเพิ่มเติม


  1. โครงการกรีนิช รามอินทราและคอนโดมีเนียม สถานที่ตั้งของโครงการจะตั้งอยู่ใกล้ๆกับสถานีของรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีบางชัน สถานีที่ 21 (ปากซอย รามอินทรา 109 คือถนนพระยาสุเรนทร์) สถานที่โดยรอบโครงการมีแฟชั่นไอส์แลนด์ นั่งรถไฟฟ้าถัดไปสองสถานี, มีAmorini เป็น Community Mall ห่างไป 1 สถานี (สถานีสวนสยาม), อีกฝั่งที่มีข่าวว่าเดอะมอลล์สร้างห้าง (ธุรกิจนี้ได้NPM10%)4.Trading Business(TPC Bangkok Supply99.99%)
  2. ตั้งบริษัทเทรดดิ้ง รองรับ AEC มุ่งสินค้าที่มีกำไรและตลาดที่แน่นอน
  3. ที่ จีน Construction Material ไม้อัดและได้เซ็นMOUกับจีนการขายเครื่องจักร,พม่า Dealer Commodity Product Ex. Cement,Steel,Wood,Palm oil,อินโดเนียเซีย Palm oil Trader,ไทย Heavy Equipment
  4. นำเข้าไม้อัดมาเป็นแบบและแมทชีทสำหรับโครงการก่อสร้างแนวสูงลดต้นทุนก่อสร้างและต่อไปจะเริ่มขายให้ผู้อื่นต่อไป
  5. ธุรกิจเทรดดิ้ง พวกCommodity ได้ Margin 2-3% แต่ถ้าเป็นเครื่องจักรหนักได้เพิ่มอีกนิด ตามแบบธุรกิจซื้อมาขายไปตามคำสั่ง