future คือการสัญญาซื้อ-ขาย ล่วงหน้า ล็อกราคาไว้ตั้งแต่วันนี้ ค่อยส่งมอบกันในอนาคต ใช้ทำอะไรได้เยอะมาก
1.1 กลยุทธ์การลงทุนในสัญญาฟิวเจอร์ส
- เก็งกำไร เปิดฐานะในสัญญา เพื่อเก็งกำไรจาการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต และต้องแบกรับความเสี่ยงด้านราคา เช่นเก็งว่า stark จะล้มละลาย ก็ไป short หุ้น และ short future ล้มจริงก็รวย
- ประกันความเสี่ยง เปิดฟิวเจอร์ให้ไปหักล้างกับสถานะในสินค้าอ้างอิง ถือหุ้น ptt แล้วเก็งว่าหุ้นตก ก็ไป short set50
- arbitrage อาศัยความไม่สมดุลกันระหว่าง ราคา spot และ furure มีข้าวอยู่ ราคา future แพงกว่า spot
1.2 การใช้ future เพื่อเก็งกำไร
ฐานะเดี่ยว
เปิดฐานะในสัญญา 1 ซีรีย์เพื่อเก็งกำไรจากทิศทางราคา
แทงขึ้นเปิด long future หาก E[Ft] หรือ E[St] > F0
แทงลง เปิด shotr future หาก E[Ft] หรือ E[St] < F0
ฐานะสเปรด
เปิดฐานะที่มีความสัมพันธ์กัน 2 ซีรีย์ขึ้นไป เพื่อเก็งกำไร
calendar spread
ซื้อตัวเดียวกันคนละเวลา
วันแรก ราคาสัญญา S50MX0 และ S50ZX0 มีค่า 1050 และ 1045
ต่อมา ราคาสัญญา S50MX0 และ S50ZX0 มีค่า 980 และ 985
calendar spread เปลี่ยนแปลงเท่าไร
spread เอาไกลลบไกล้
วันแรก F* - F = 1045 - 1050 = -5
วันต่อมา F* - F = 985 - 980 = 5
กว่างขึ้น 5- (- 5) = 10 จุด
inter commodity spread
ซื้อคนละตัว
รายตัว aUX0 และ BUXO ราคา 40 ,60
มองว่า อีก 6 เดือน A จะวิ่งแรงกว่า B
ถ้าซื้อ aUX0 จะลงทุน BUXO อย่างไร
สเปรด Fa - Fb = 40-60
ถ้า a แรงกว่า สเปรดจะกว้างขึ้น ตอนขึ้น a ขึ้นแรงกว่า ตอนลง ลงน้อยกว่า
ต้องซื้อ 2 ตัวในมูลค่าเท่ากัน
a 30 สัญญา ราคา 40 บาท มูลค่า 30*1000*40 = 1,200,000
เปิด short อีกฝั่งมูลค่าเท่ากัน
1,200,000 = x * 1,000 *60
x = 1,200,000/(1,000 *60 ) = 20 สัญญา
1.3 หลักการใช้ future เพื่อประกันความเสี่ยง
มีสินทรัพย์อ้างอิงแต่ก็กลัวอนาคต
ความเสี่ยงด้านราคา
ความเสี่ยงด้านรายรับ อนาคตรายรับลดลง ขาย future ล็อกราคาขายไว้เลยได้เท่านี้ชัวร์
ความเสี่ยงด้านรายจ่าย อนาคตรายจ่ายเพิ่ม ซื้อ future ล็อกราคาซื้อ อนาคตได้จ่ายเท่านี้ชัวร์
เวลาทำต้องมอง
- ประเภทสินทรัพย์อ้างอิง
- วันส่งมอบ
- จำนวนและด้านของสัญญา
กรณีสินทรัพย์อ้างอิงและวันส่งมอบตรงตามความต้องการ
จำนวนสัญญาคำนวณโดย
\[ N_{F} = \frac{Q_{S}}{Q_{F}}, or , N_{F} = \frac{V_{S}}{V_{F}}=\frac{S_{0}Q_{S}}{F_{0}Q_{F}} \]
F ราคาปัจจุบันของ ฟิวเจอร์
Q ตัวคูณ
Nจำนวน
F x Q คือมูลค่าที่ตราไว้ของสัญญาฟิวเจอร์ 1 สัญญา
หลักคือหาจำนวนสัญญาที่ทำให้กำไรของ future 1 ช่องไปชดเชย กำไรขาดทุน 1 ช่องของสินทรัพย์อ้างอิงพอดี
ex มีพอร์ท 200 ล้าน ปิดความเสี่ยง 40% future ราคา 1050 จุดต้องshort กี่สัญญา ถ้ากำไรจุดละ 200
40% ของ 200 ล้าน = 80 ล้าน
80 ล้าน = จำนวนสัญญา x 1050 * 200
จำนวนสัญญา = 80 ล้าน / (1050 * 200) = 380.95 หรือ 381
จำนวนสัญญาก็ไม่เป๊ะต้องปัดเอา
กรณีวันส่งมอบไม่ตรงตามความต้องการ จะเลือกสัญญาท่มีวันส่งมอบหลังวันที่ต้องการปิดความเสี่ยง แต่หากกังวลเรื่องสภาพคล่องของสัญญา อาจเลือกใช้สัญญาที่มีวันส่งมอบใกล้แล้ว roll over สัญญาในอนาคต
ex หา future ที่วันตรงไม่ได้จะมีความเสี่ยง basis risk
มีสินทรัพย์อ้างอิง + ขายล่วงหน้าไปก่อน กำไรขาดทุนเท่ากับ ราคาขายสินทรัพย์บวกกำไรขาดุนจากฟิวเจอร์ St + (F0 - F1) เอา f0 อยู่หน้าเพราะลงแล้ได้กำไร
จัดรูปใหม่ = F0 - (Ft - St) = F0 - basis t
กรณะสินทรัพย์อ้างอิงไม่ตรงตามความต้องการ ให้เลือกสัญญาฟิวเจอร์ที่ราคาสินทรัพย์อ้างอิงของสัญญามีค่าสหสัมพันธ์กับราคาของสินทรัพย์ที่ต้องการปิดความเสี่ยงที่สุด
กรณีสินทรัพย์อ้างอิงและวันส่งมอบไม่ตรงความต้องการ ต้องปรับการคำนวณ Nf มีสองแบบขึ้นกับประเภทความเสี่ยงที่ต้องการปิด ความเสี่ยงรวม ความเสี่ยงที่เป็นระบบ
1.4 กลยุทธ์การใช้สัญญาฟิวเจอร์เพื่อประกันความเสี่ยง
- ตราสารทุน
- หุ้นรายตัว
- กลุ่มหลักทรัพย์
- ปรับ sysyematic risk
- ลด total risk
- การสังเคราะห์หลักทรัพย์
- อัตราดอกเบี้ย
- ดอกเบี้ยรับหรือจ่ายรายงวด
- ปรับ duration ของกลุ่มการลงทุนในตราสารหนี้
- อัตราแลกเปลี่ยน
ตราสารทุน
กลุ่มหลักทรัพย์
ลด total risk
\[
N_{F}=\frac{Q_{S}}{Q_{F}} \quad \textrm{or} \quad N_{F}=\frac{V_{S}}{V_{F}}=\frac{S_{0}Q_{S}}{F_{0}Q_{F}}
\]
สินทรัพย์อ้างอิงของสัญญา ไม่ตรงตามความต้องการ
\[
N_{F}=\frac{V_{S}}{F_{0}Q_{F}} \times b
\]
ค่า b มาจากการทำ regression ของ future กับ สินทรัพย์อ้างอิง
R(S,t) = a + b R(F,t)
สินทรัพย์อ้างอิง ตรงหรือไม่ตรงตามความต้องการ
ปรับ sysyematic risk
ความเสี่ยงมีความเสี่ยงที่เป็นระบบ และความเสี่ยงไม่เป็นระบบ ที่เป็นความเสี่ยงเฉพาะตัวหุ้นนั้นๆ
เราสามารถหาจำนวนสัญญาที่จะshort แล้วทำให้ค่าเบต้าของกลุ่มการลงทุนหลังประกันความเสี่ยงแล้ว มีค่าเท่ากับ 0
\[
\beta _{T}=\frac{V_{S}}{V_{S}}\beta _{S} + \frac{F _{0}Q _{F}N _{F}}{V _{S}}\beta _{F}
\]
ย้ายข้างหา N
\[ N_{F}= - \frac{V_{S}}{F_{0}Q_{F}} \times \frac{\beta _{S}}{\beta _{F}} \]
ถ้าจะปล่อยความเสี่ยงที่เป็นระบบไว้หน่อย
\[
N_{F}=\frac{V_{S}}{F_{0}Q_{F}} \times \frac{(\beta _{T} -\beta _{S})}{\beta _{F}}
\]
Synthetic Securities
สร้างตราสารเองก็ได้
มูลค่าของ future ก็ควรเท่ากับ เอาเงินที่จะซื้อวันนี้ ไปลงทุนตราสารหนี้ riskfree ในช่วงเวลานั้นๆ
VF = Nf *F0*Qf = Vs (1+r)^T
แก้สมการหา Nf ตามสะดวก
Long riskfree bond = long underlying stock + short future
ซื้อหุ้น ขาย ฟิวเจอร์ ก็เหมือนล็อกราคาไว้แล้วรับผลตอบแทนจากตราสารหนี้
long underying stock = long riskfree bond + long future =long riskfree bond - Short future
lone future = short riskfree bond + long underlying stock
ex การเพิ่ม beta ด้วย future
พอรท 600 ล้าน beta เที่ยบ set=1
อยากให้ beta เป็น 1.2 ด้วย s50future
ราคา 1,000 beta 0.95 ควรให้กี่สัญญา
ต้องซื้อ (600,000,000 / (1,000*200)) * ((1.2-1)/0.95) = 631.5 หรือ 632
ex ลดความเสี่ยงของพอร์ท
พอร์ท 600 ล้าน future ราคา 1000 จุด beta future กับพอร์ท 0.8 (r port = 0.02 + 0.8 r Future + error )
ขาย (600,000,000/(1,000*200)) 0.8 = 2400 สัญญา
ex สังเคราะห์กลุ่มการลงทุนใน set50
200 ล้าน 6 เดือน
ปันผล 3% ราคา future 1,000 rf 5%
Long stock = long riskfree + long future ( ราคา future คือมูลค่าปัจจุบันโดยตัว discount คือ riskfree ถ้าซื้อคู่ก็เหมือนซื้อหุ้นนั่นเอง)
เอา 200 ล้านไปซื้อพันธบัตร 6 เดือนได้เงิน 200,000,000*(1+0.025) = 205,000,000
ซื้อ future ต้องจ่ายเงิน Nf*1000*200 = 200,000*Nf
จำนวนสัญญา
205,000,000 = 200,000*Nf
Nf = 205,000,000/200,000 = 1,025 สัญญา
จำนวนหน่วยของหุ้นที่สังเคราะห์ได้ เท่ากับ (1,025*200)/(1+0.05) = 201,970 หน่วย
ถ้าซื้อแล้วเอาเงินปันผลไปลงทุนต่อ สิ้นเดือนที่ 6 จะมีหุ้น 205,000 หน่วย
ที่สิ้นเดือนที่ 6 มูลค่าของฐานะทีี่สังเคราะห์คือ 205,000,000 + (St-1,000)*200*1,025 = 205,000St
อัตราดอกเบี้ย
การปรัการความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยด้วย FRA
ความเสี่ยง = การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย หรือการลดลงของราคาตราสารหนี้ในอนาคต
ซื้อ FRA ขาย T bill Future หรือขาย Goverment Bond Future
รับคงที่ T bill Future จ่าย FRA + จ่าย T bill Future = จ่าย FRA ดอกขึ้นก็จ่ายเท่าเดิม
ความเสี่ยง การลดลงของอัตราดอกเบี้ย หรือการเพ่มขึ้นของราคาตราสารหนี้ในอนาคต
ขาย FRA ซื้อ T bill Future หรือ ซื้อ Goverment Bond Future
รับคงที่ที่ FRA - จ่าย T bill Future + รับดอก T bill Future = รับ FRA ดอกลงก็รับเท่าเดิม
การปรับค่า Modified Duration MD ของกลุ่มการลงทุนในตราสารหนี้
การกำหนดจำนวนสัญญา Future
\[N_{F}=\frac{V_{B}}{F_{0}Q_{F}}\frac{MD_{T}-MD_{B}}{MD_{F}}\beta_{Y_{B}}\]
beta yb สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่า Yb และ Tf คำนวณโดย regression R Yb = a + b Yf + error
ex รับเงิน 6 เดือน แล้วฝากต่ออีก 3 เดือน
ลูกค้าคืนเงินกู้ 500 ล้านในอีก 6 เดือน วางแผนว่ารับแล้วจะฝากต่อ 3 เดือน
ได้ดอกเบี้ยเท่ากับ 3 Month BIBOR
อยากได้ดอกเบี้ยเงินฝากอนาคตตั้งแต่วันนี้
ให้ 6x9 FRA ที่ 5% ต่อปี
ต้องการำหนดดอกเบี้ยเงินฝากอายุ 3 เดือน ล่วงหน้า 6 เดือน
จึงขาย 6x9 FRA ที่ 5% ต่อปี (สูตรป้องกันความเสี่ยงดอกเบี้ยลง)
เพื่อรับดอกเบี้ยคงที่ และจ่ายดอกเบี้ย 3 Month BIBOR ในอนาคต
กำไรขาดทุน = Rt + (5.0% - Rt) = 5%
ex ดอกขึ้น อยากลด Duration
กองมูลค่า 500 ล้าน MDb 5 อยากลดเหลือ 4
future มีราคา 105.65 จุด implied yield Yf 3.2% ต่อปี MDf 4.5 ปี
Yield กลุ่มการลงทุน Yb มีค่าความผันผวน 0.8 เทียบ Yf หรือ yield beta = 0.8
ต้องเปิดขาย future เท่ากับ
(500,000,000 / (1.0565*1,000,000)) *((4 - 5)/4.5) * 0.8 = -84.14 หรือ 84 สัญญา
ถ้าใส่ future ไปด้วย พอร์ท MD จะลดลงน้อยกว่าเดิม
ถ้าอนาคต Yb เพิ่ม 25 bps กลุ่มการลงทุนจะมีมูลค่าลดลง 5x25 = 125 bps เหลือ 500,000,000*(1-0.0125) = 493.75 ล้านบาท
future จะเพิ่ม 25/0.8 = 31.25 bps
ราคา future ลดลง 4.5*31.25*1.0565 = 148.57 bps
ขาย future จะได้กำไร 0.014857 * 1,000,000 *84 = 1.248
ล้างกันจะเป็น 493.75 + 1248 = 495
เงินขายไป 5 ล้านเท่ากับพอร์ทมี ดุเรชั่น 4 พอดีเป๊ะ
ลดลง 4*25 = 100 bps = 5 ล้านบาท
อัตราแลกเปลี่ยน
=======================================
อ่านหนังสือมาเยอะแต่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก
รวม 3 หลักสูตร Online ในคอรสเดียว เรียนจบวิเคราะห์หุ้นได้ทุกตัวในตลาด
✅เเจาะงบราย sector + ประเมินมูลค่า + แกะงบทุกตัวในตลาด(ปีละครั้ง) และสรุปงบ ทุกไตรมาส
✅เรียนOnlineผ่านวิดิโอในfacebookกลุ่มปิด ความยาวกว่า 60 ชั่วโมง
✅ดูได้ตลอดชีพ ไม่มีลบคลิป และไลฟอัพเดทเนื้อหาให้ทันสมัยตลอดเวลา
✅สงสัยถามได้ตลอดเวลา
☀เรียนแล้วได้อะไร☀
✅ดูการ เกิดขึ้นตั้งอยู่และถดถอย ของธุรกิจผ่านงบการเงิน
✅แต่ละช่วงเศรษฐกิจ sector ไหนไป sector ไหนมา และเครื่องมือดูแบบ real time
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่มการเงิน คุณภาพลูกหนี้ดูตรงไหน
✅กลุ่มธุรกิจบริการ การเติบโต จุดคุ้มทุนดูอย่างไร
✅โรงแรม สื่อสาร ค้าปลีก
✅การวิเคราะห์ธุรกิจผลิต เทคนิคดูกำลังการผลิตของโรงงาน เมื่อไรจะต้องขยายโรงงานใหม่
✅ประสิทธิภาพโรงงานเป็นอย่างไร ใครดีใครด้อย เผยชัดๆ
✅การวิเคราะห์ธุรกิจ ซื้อมาขายไป สิ้นค้าค้างสต็อก เก็บเงินไม่ได้ดูอย่างไร
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่มรับเหมา
✅การวิเคราะห์หุ้นกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์ แบบไวๆ จะโอนได้เมื่อไร
✅การวิเคราะห์หุ้น วงจร รอบมา รอบไป สัญญาณในงบการเงิน
✅หุ้น turn around เจ้ากำลังแอบทำโปรเจกอะไรในงบการเงิน
✅การประมเนมูลค่าของแต่ละ sector ว่ามมีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร
🔈สอนโดย อ ภัทรธร ช่อวิชิต
นักลงทุนอิสระ เจ้าของผลงานหนังสือ คุ้ยแคะแกะหุ้นเด้ง และเจาะหุ้นร้อนสแกนหุ้นเด้ง
=======================================
แคปรูปตรงนี้มาได้ส่วนลดพิเศษจากปกติ
5000 บาท เหลือเพียง
2,800 บาทเท่านั้น
☎ติดต่อสอบถามและลงทะเบียน (รับจำนวนจำกัด)
line id; pat4310
=======================================