วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2558

พล็อตหนังหุ้นTurnaround


เล่นหุ้นเทรินให้เหมือนอ่านนิยาย
พล็อดเรื่องจะคล้ายๆกันใครเดาตอนจบได้รวย
1. ช่วงต้นเรื่อง
ส่วนใหญ่หุ้น turn ก็เป็นบริษัทปกตินี่ละ ทำมาหากินไปตามเรื่องตามราว
2. ช่วงเหตุการหลักของเรื่อง
ช่วงปัญหาธุรกิจเริ่มมา

  • ตลาเข้าช่วงตกต่ำ
  • รอบวัฎจักรราคาสินค้าตก
  • ลงทุนเยอะเกิน สินทรัพย์ไม่สร้างรายได้
  • ต้นทุนพุ่ง
  • หนี้เยอะไป จ่ายไม่ไหว
นักลงทุนนักรู้ที่ศึกษาธุรกิจมาอย่างดีเห็นท่าไม่ดีก็จะขายหุ้นไปก่อน ส่วนพวกรู้บ้างไม่รู้บ้างก็จะถือต่อไป จนงบการเงินออกถึงรู้ว่ามองผิดก็จะแห่กันขายออกมา หุ้นจะร่วงระเนระนาด เม่าบาดเจ็บล้มตาย

3.ช่วงคลี่คลาย
3.1เริ่มฮึดสู้เข้ามาแก้ไขปัญหา

  • ปรับโครงสร้างองค์กรใหม่
  • ปรับโครงสร้างนี้
  • ขายทรัพย์สิน
  • ลงทุนธุรกิจใหม่

3.2 เมื่อแผนธุรกกิจใกล้ๆสำเร็จจะเข้าจุดไคลแม็ก ช่วงนี้ราคาหุ้นจะเร่าร้อนมากความคาดหวังมาแบบจัดเต็ม
3.3สรุปจบ

  • จบแบบhappy ending ธุรกิจมีกำไรเติบโตได้ต่อเนื่อง
  • จบแบบไม่สย กำไรยังไม่มาตามนัดหุ้นตก รอติดตามภาคสอง

วันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2558

การใช้ MACD กับ STO ในการเข้าซื้อหุ้น

มีคนไปอบรมเรื่องการใช้สัญญาณ MACD กับ STO ในการซื้อหุ้น มาแบ่งปันเห็นว่าดีก็แชร์กันต่อ

วันนี้มีของขวัญมาฝาก สำหรับคนที่ไม่ได้ไปอบรมฟรี เรื่องการใช้ MACD กับ STO ในการเข้าซื้อ (Groups ห้องคุยนักลงทุน) ... พอดีคนโพสต์ พูดไม่เก่ง ทำเป็นแต่ตาราง และบางทีความรู้หลายๆอย่าง ก็จำเป็นต้องได้รับการพิสูจน์ด้วยวิธีที่เป็นที่ยอมรับ ไม่งั้นสุดท้ายแล้วมันก็จะเหมือนเรื่องที่ชาวโลกคิดว่า ดวงอาทิตย์หมุนรอบโลก ... ซึ่งแน่นอนคะว่า การ Believe ในสิ่งที่ผิด บางทีมันก็เป็นเรื่องอันตราย
/
/
เข้าเรื่องดีกั่ว ... วันนี้เราจะมาใช้ MACD เป็นตัวกรอง และใช้การ Cross ของ StochK (14,3) กับ StochD (14,3,3) เป็นสัญญาณเข้า โดยจะไล่ไปทีละเงื่อนไข
ได้ทั้งหมด 8 เงื่อนไข และขายด้วย MACD ตัด 0 ... แต่ก่อนอื่นทำความเข้าใจกับคำศัพท์เล็กน้อยก่อนนะคะ ...
/
/
Net Profit (กำไรสุทธิ)
Annual Return (อัตรากำไรทบต้น)
Max.System Drawdown (อัตราการลดลงของเงินทุนสูงสุด)
CAR/MDD (อัตรากำไรทบต้น/อัตราการลดลงของเงินทุนสูงสุด)
Winners(จำนวนครั้งและอัตราที่ชนะ)
Losers(จำนวนครั้งและอัตราที่แพ้)
/
/
อธิบาย Max.System Drawdown (อัตราการลดลงของเงินทุนสูงสุด) นิดนึง
สมมติเรามีเงินทุนที่ 1 ล้านบาท ลงทุนแล้วกำไรมาอีก 1 ล้านบาท
เป็น 2 ล้านบาท แต่เผอิญต้องผ่านช่วงที่ตลาดไม่ดี เงินทุนเลยยุบไป
เหลือ 1.7 ล้านบาท แบบนี้จะได้ Max.System Drawdown เท่ากับ
(2 ล้าน - 1.7 ล้าน) / 2 ล้าน = 15% อะไปดูตารางกันเลย
/
/
ทั้งนี้ทั้งนั้น MACD เป็นเพียงแค่เส้น MA 2 เส้นตัดกันนะคะ และเป็นแค่ เส้น 12 ตัด 26 วัน หรือ เส้น 9 ตัด 19 วัน ทำหน้าที่ได้แค่เพียงเป็น Short Term Trend Filter บอกได้แค่ว่าราคา 12 วัน หรือ 9 วัน ตอนนี้โงหัวขึ้นอยู่นะ ... วิธีซื้อที่ดีที่สุดในตาราง ไม่ได้แปลว่าจะดีที่สุดนะคะ อินดิเคเตอร์อื่นๆ ก็ใช้ได้เหมือนกันนะคะ



สรุปผล


https://www.facebook.com/groups/137667429737306/permalink/284942248343156/ 

วันพุธที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2558

วิธีประมาณการราคาเป้าหมายแบบเร็วๆ

วิธีประมาณการราคาเป้าหมายแบบเร็วๆ
จริงๆเจ้าของบริษัทเวลาออกขาวอยากบอกราคาเป้าหมายใจจะขาด แต่กลตห้ามไว้ เลยบอกอ้อมๆ ผ่าน ยอดขาย ปริมาณขาย กับอัตรากำไร ให้เราจับคูณหากำไรกันเอาเองตามสมการ ราคาเท่ากับ PE คูณ กำไรต่อหุ้น
P = PE x EPS
ค่า PE ก็กะๆเอา ทั่วๆไปก็ 10-15 เท่า หุ้นเติบโตก็20เท่าขึ้น อสังหาหรือวัฎจักร5-7เท่าพอ
เหลือแค่หาค่า EPS หรือกำไรต่อหุ้น
เวลาอ่านข่าวแล้วก็เปิดสรุปข้อสนเทศในเว็ปตลาดหลักทรัพย์ประกอบ
ลองประมาณการราคาเป้าหมายดู

  1. บอกยอดขายก็จับคุณอัตรากำไรสุทธิได้กำไร
  2. บอกยอดขายเติบโตเป็น% ถ้าอัตรากำไรเท่าเดิม กำไรจะโตเท่ายอดขาย
  3. หุ้นวงจรจะชอบบอกเป็นปริมาณขาย อันนี้ยากเพราะต้องเดาราคาขายจับคุณกันได้ยอดขาย และอัตรากำไรสุทธิเอาเอง
  4. หุ้นรับเหมาจะชอบบอก รายได้รอการรับรู้(backlog) เราก็กะเพิ่มว่ารับงานกี่ปีทำเสร็จ สมมติ 2 ปีก็เอา backlog หารสองได้ยอดขายปีนั้นจับคุณอัตรากำไรสุทธิจบได้กำไรในปีนั้น
  5. หุ้นอสังหาชอบบอกมูลค่าโครงการ ซึ่งก็คือยอดขายถ้าโอนได้ครบนั่นเอง จับมูลค่าโครงการคูณอัตรากำไรสุทธิจบ

ข้อสังเกต

  1. ถ้าหุ้นที่รายได้กำไรโตสม่ำเสมอ และอัตรากำไเสมอกำไรที่ประมาณการจะค่อนข้างน่าเชื่อถือ
  2. จำนวนหุ้นที่ใช้หากำไรต่อหุ้นควรจะเป็นจำนวนหุ้นที่ปรับลดทุกอย่างแล้ว ถ้ามี warrant ก็เอามารวมด้วยเพราะเราอย่างรู้ว่าในอนาคตถ้า warrant ใช้สิทธ์ทั้งหมดจะเหลือกำไรเท่าไร