วันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2560

10วิธีประเมินมูลค่าหุ้นด้วย PE ratio


PE ratio เป็นเครื่องมือในการประเมินมูลค่าที่ง่ายใจการใช้งาน แต่ในความง่ายถ้าคนที่เข้าใจก็สามารถพลิกแพลงได้ไม่จำกัด
ในบทความนี้พลิกแพลงมาให้ 10 วิธี จะมีอะไรบ้างมาดูกันครับ

1.เทียบกับอุตสาหกรรม


ค่า PE อุตสาหกรรมดูได้ที่ factsheet ครับ ถ้าหุ้นเรา PE ต่ำกว่าอุตสาหกรรมก็แปลว่าถูก

https://www.set.or.th/set/factsheet.do…

ถ้าอยากรู้ราคาถ้า PE เท่ากับอุตสาหกรรมก็ง่ายๆครับใช้การเทียบบัญติไตรยางค์เอา

หุ้น x PE 20 เท่า ราคา 25 บาท
หุ้น x PE 1 เท่า ราคา 25/20 = 1.25 บาท
หุ้น x PE 30 เท่า เท่ากับอุสาหกรรม ราคา 25/20*30 = 37.5 บาท

2.เทียบกับค่าเฉลี่ย


วิธีการคิดเหมือนข้อ 1 เพียงแต่เปลี่ยนจาก PE อุตสาหกรรมเป็น PE เฉลี่ย ใน factsheet จะมี PE ย้อนหลังให้ 3 ปี ก็นำมาหาค่าเฉลี่ยครับ ถ้า PE ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยก็ถือว่าถูก เรามีความเชื่อว่าค่าเฉลี่ยคือ PE เหมาะสมของหุ้นตัวนั้น

แต่สิ่งที่ต้องระวังคือถ้าหุ้นกำไรมีแนวโน้มลดลง PE เหมาะสมอาจลดลงก็ได้ใช้ค่าเฉลี่ยที่สูงๆอาจติดดอย

3.เทียบกับค่าคงที่


หลายคนอาจมีค่าในใจเช่น PE เหมาะสมของหุ้นทุกตัวไม่ควรเกิน 15 ก็จะใช้เลข 15 เป็น PE เหมาะสม หุ้นตัวไหน PE มากกว่าค่าเหมาะสมก็แปลว่าแพง

4.เทียบกับค่าPE ที่เหมาะสมทางทฎษฎี


ส่วนใหญจะคิดมาจาก dividend discount model
p=d/k-g

ราคา เท่ากับ เงินปันผล d หาร ผลตอบแทนที่คาดหวังk หักด้วยการเติบโตg

จากบทความ อสรรพงษ์เรื่อง การหา-pe-ที่เหมาะสมทางทฤษฎีเพื่อกำหนดกรอบราคาในการลงทุน
https://www.facebook.com/notes/sanpong-limthamrongkul/การหา-pe-ที่เหมาะสมทางทฤษฎีเพื่อกำหนดกรอบราคาในการลงทุน/10202892649375690

PE ได้ถูกประมาณการจาก b/k-g
b คือ อัตราจ่ายปันผลต่อกำไร

และเพื่อให้ง่ายขึ้น k-gถูกประมาณการจาก ผลตอบแทนเงินปันผล ซึ่งสามารถประมาณการผลตอบแทนเงินปันผลที่คาดหวังได้จาก rf+beta

ค่า beta ค่า b อยู่ใน factsheet มีค่าเดียวที่ต้องกำหนดคือ rf

แต่เพื่อให้ง่ายส่วนใหญ่ผมก็ประมาณการ k-g ด้วยเงินปันผลไปเลย โดยเงินปันผลผมใช้ค่าเฉลี่ยเอา
pe= b/dy
เช่นหุ้น x ปันผล 50% ของกำไร ปันผลเฉลี่ยอยู่ที่ 2% แสดงว่า PE เหมาะสมออยู่ 50/2 = 25 เท่า

PE ที่ได้สะท้อนเงินปันผล ส่วนการเติบโตไปหาเอาข้างหน้า

ตัวอย่างการคำนวณ PE เหมาะสมของ CPN



หุ้น CPN PE ปัจจุบัน 30.85 เท่า ราคา 67.5 บาท

ถ้าคำนวณPE ด้วย b/dy จะได้ 28 เท่า
ใกล้ๆกับ PE เฉลี่ยตามข้อ 2 ที่ 28.81 เท่า
คำนวณตามทฤษฎี b/rf+beta จะได้ 11.13เท่า
แต่ถ้าคำนวณ PE =g ตามสูตรข้อ 7 จะได้เพียง 10.36 เท่า

จะเห็น PE เหมาะสมของ หุ้น CPN จะวิ่งอยู่ระหว่าง 10 - 28 เท่า
ถ้าจะซื้อตาม ทฤษฎี อาจไม่ได้ซื้อแต่ถ้าจะซื้อก็ต้องซื้อแพงหน่อย
แต่ก็ต้องระวังเพราะซื้อ PE แพงๆถ้าหุ้นไม่เติบโตอาจราคาลดลงได้อีก

5.หาเป้าราคาปีหน้า


ย้ายข้างสมการ PE นิดหน่อยจะได้
P = PE x E
ค่า PE ถ้าประมาณการข้อ 1-4 ได้ก็เลือกเอาซักตัว
แล้วประมาณการกำไรปีหน้ามาแล้วจับคูณก็จะได้ราคาหุ้น ปีหน้า

เช่นหุ้นตัวหนึ่งกำไรต่อหุ้น 1 บาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 10% กำไรปีหน้าก็จะเป็น 1.1 สมมติ PE เหมาะสมที่ 20 เท่า ราคาเหมาะสมคือ 1.1*20= 22 บาท

6.หา PE ปีหน้า


บาทคนยอมซื้อแพงเพราะรู้ว่าปีหน้าจะ PE ลดลงจากกำไรที่เติบโตขึ้น ถ้า PE ปีหน้าลงไปเยอะมากจนเหลือน้อยๆแปลว่าถูก

เช่น PE ปีนี้ 25 เท่า ราคา 10 บาท เท่าแต่เรารู้ว่ากำไรต่อหุ้นปีหน้าจะเติบโตเท่าตัวจาก 0.4 บาทเป็น 0.8 บาท PE ปีหน้าจะเหลือเพียง 10/0.8 = 12.5 เท่า

ถ้าเรามองว่า PE เหมาะสมหุ้นตัวนี้คือ 20 เท่าแปลว่าหุ้นตัวนี้ยังถูก

ต้วอย่างการหา PE CPN ปีหน้า ข้อ 5, 6




ถ้ากำหนดได้ กำไรโตเท่ากับค่าเฉลี่ยที่ประมาณ 10% จะได้ราคาปีหน้าที่ระดับ PE 28.73 เท่า อยู่ที่ 62 69 76 83 ตามลำดับ

ในขณะที่ PE จะลดลงเรื่อยๆจนเหลือ 23.2 ในอีก 3 ปีข้างหน้า

7.เทียบกับ growth


หุ้นที่ growth แรงเราก็ยอมซื้อแพงได้ ในแนวคิดของ ปีเตอร์ ลินช์ (Peter Lynch) มองว่าจะซื้อหุ้นที่ PE เที่ยบกับ growth น้อยกว่า 1 และ PE ไม่เกิน 30 เท่า จะถือว่าหุ้นตัวนั้นยังไม่แพง

8.คิด PE แบบย้อนกลับ


อันนี้มองว่า ถ้ามีเป้าราคาในใจจะต้องทำกำไรปีหน้ากี่บาทแล้วไปดูว่าบริษัทสามารถทำได้หรือไม่

สมมติวันหนี้หุ้นราคา 10 บาท กำไรต่อหุ้น 0.5 เราเชื่อว่าอนาคตมันจะไป 15 บาท PE เหมาะสมที่ 20 แสดงว่าบริษัทต้องทำกำไรเท่ากับ E = p / pe = 15/20 = 0.75 บาท

แล้วเราก็มโนเอาว่าจะทำได้หรือไป ถ้ามองว่าได้แน่ๆ เพราะกำไรโตแค่จาก 0.5 ไป 0.75 เท่านั้นเอง บริษัทน่าจะทำได้

9.PE หุ้นเติบโต


หุ้นเติบโตมักจะ PE แพงหน่อย แบบนี้ไม่ต้องคิดมาก ราคาจะมีโมเมนตั้มึ้นเรื่อยๆจนกระทังกำไรเริมโตชะลอตัวลง อันนี้ต้องตัวใครตัวมันครับ

10.PEหุ้นวงจร


หุ้นวงจรส่วนใหญ่มักขายสินค้า commodity เช่นสินค้าเกษตร ปิโตรเคมี โลหะต่างๆ

การใช้ PE ratio จะสลับทิศกันถ้า PE ต่ำต้องระวังเพราะแสดงว่าเป็นรอบขาขึ้นไม่รู้จะลงเมื่อไร การซื้อต้องซื้อตอน PE แพงๆ หรือขาดทุนเพราะแสดงว่ารอบเริ่มเป็นขาลง แค่รอมันขึ้นเท่านั้น

จะเห็นว่า PE ตัวเดียวถ้าเข้าใจสามารถพลิกแพงได้ไม่จำกัดครับ เลือกที่เราถนัดครับผม


ติดตามเราได้ที่ Website : http://www.investidea.in.th
Facebook : http://www.facebook.com/investidea.in.th
Line ID : @investidea.in.th ใส่@นำหน้าด้วย

สัมมนาวิเคราะห์หุ้นด้วยปัจจัยพื้นฐาน 

ดูรายละเอียดและตารางอบรมได้ที่http://www.investidea.in.th/p/value-investor.html
หรือสอบถามราบละเอียดและลงทะเบียนได้ที่ Line; pat4310, หรือโทร 086-503-5023 เพิ่มเพื่อน

วันพุธที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2560

excel สรุปงบไตรมาส 2 2560


งบไตรมาสสองออกแล้ว รักใครชอบใครสามารถมาโหลดสรุปงบการเงินไปส่องกันได้เลยครับ กดเบาๆตรง icon รูป download ตรงมุมขวาลางของ excel นะครับ




ผลประกอบการราย sector จะเห็นว่ากลุ่มโรงพยาบาลกำไรพอได้ จาก bdms ที่มีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น bh กลุ่มโรงแรมก็มา รถยนต์ก็เริ่มฟื้นหลังจากโครงการรถคันแรก กลุ่มสินเชื่อก็ยังเติบโตต่อ ค้าปลีกก็ยังได้ ส่วนที่เหลือนี่ เอิ่มมมมมม


มาดูหุ้น 20 อันดับที่กำไรโตสูงสุดกันบ้าง อันดับต้นๆต้องระวังกำไรพิเศษกันหน่อย อย่าง bkd มีกำไรจากการขายที่ดิด pace มีกำไรจาะอะไรก็ไม่รู้นักบัญชียังงง 




ติดตามเราได้ที่ Website : http://www.investidea.in.th
Facebook : http://www.facebook.com/investidea.in.th
Line ID : @investidea.in.th ใส่@นำหน้าด้วย

สัมมนาวิเคราะห์หุ้นด้วยปัจจัยพื้นฐาน 

ดูรายละเอียดและตารางอบรมได้ที่http://www.investidea.in.th/p/value-investor.html
หรือสอบถามราบละเอียดและลงทะเบียนได้ที่ Line; pat4310, หรือโทร 086-503-5023 เพิ่มเพื่อน