วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2556

โครงสร้างทางเศรษฐกิจไทยเปลี่ยนไป ใครได้ประโยชน์

จะเป็นนักลงทุนต้องมองยาวๆครับ มอง trend เศรษฐกิจให้ออกมาดูมุมมองเรื่องเรื่องโครงสร้างทางเศรษฐกิจของของคุณ ฉัตรชัย วงแก้วเจริญ เซียนหุ้น[1] VI อธิบายได้ดีครับดังนี้

"ประเทศไทยมีโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่ไม่สมดุล คือ พึงพิงการส่งออกในสัดส่วนที่สูงมาก ทำให้มีความผันผวนและขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจโลกค่อนข้างมากเกินไป เมื่อประเทศใหญ่ๆของโลกมีปัญหา ก็จะกระทบต่อเศรษฐกิจของเรามาก เราต้องสร้างการบริโภคภายในประเทศให้สูงขึ้น เพื่อเป็นกันชนเมื่อสภาพเศรษฐกิจโลกมีปัญหา

ในขณะที่เราก็ต้องถามว่า ค่าแรงที่ต่ำนั้นเป็นรายได้ที่เพียงพอให้แรงงานใช้ดำเนินชีวิตที่เหมาะสมได้หรือไม่

เรายอมให้คนไทยทำงานหนัก แต่ได้รายได้น้อย คุณภาพชีวิตแย่ เพียงเพื่อจะได้มีต้นทุนในการผลิตสินค้าที่ต่ำ ขายสินค้าให้ต่างชาติในราคาถูกๆ ให้ชาวต่างชาติเอาเปรียบเราหรือ

ประเทศไทยมีทางเลือกมากมาย เราคงอุ้มทุกคนไม่ไหว อุตสาหกรรมที่ต้องใช้แรงงานก็ควรที่จะย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่ยังมีค่าแรงถูกอยู่"

การ ขายสินค้าให้ง่ายๆ ด้วยวิธีง่ายๆ ก็คือ ขายถูกๆ ไม่ต้องคิดอะไรใหม่ ไม่ต้องปรับปรุงพัฒนาอะไร แล้วทำอย่างไรให้ขายถูกๆแล้วยังมีกำไร
  • วิธีแรกสำหรับสินค้าส่งออกก็คือ กดค่าเงินบาทให้ต่ำๆ ยิ่งต่ำยิ่งได้กำไรเพิ่มแบบไม่ต้องทำอะไร
  •  อีกวิธี คือ ลดต้นทุนค่าแรง กดค่าแรงให้ต่ำๆ ไม่ต้องพัฒนากระบวนการผลิต ไม่ต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ ไม่ต้องพัฒนาฝีมือแรงงาน
อุตสาหกรรม ใดบ้างที่ออกมาพูด อุตสาหกรรมเหล่านั้นเราก็รู้อยู่แล้วว่ามีอนาคตมากน้อยแค่ไหน นายทุนหลายราย ครั้งมีกำไรก็มักหลบเลี่ยงภาษี กำไรที่ได้ก็นำไปใช้จ่ายเพื่อความสุขอย่างมากมาย ไม่เก็บหอมรอบริบไว้ปรับปรุงกิจการ

ผม คิดว่าอุตสาหกรรมเหล่านั้นไม่ช้าไม่นาน ถ้าไม่มีการปรับตัวก็ต้องเลิกกิจการอยู่ดี เพราะค่าแรงประเทศเพื่อนบ้านถูกกว่ามาก หลายบริษัทก็ปรับตัวย้ายโรงงานไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้านหมดแล้ว"

ซึ่งก็สอดคล้องกับที่คุณ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.การคลัง ได้ให้มุมมองไว้ในรายการอะไรก็ไม่รู้ดูตอนปีใหม่ที่ผ่านมา ว่า"โครงสร้างเศรษฐกิจไทยตอนนี้พึ่งพิงการส่งออกมากถึง 70% มาจากภายในประเทศเพียง 30% ดังนั้นแนวนโยบายต่อไปก็จะมุ่งเน้นเสริมการบริโภคในประเทศมากขึ้น สัดส่วนในอนาคตจะพลิกจากเป็นพึ่งพิงภายนอก 30% และจากภายใน 70%

โดยภาคการส่งออก น่าจะพลิกไปผลิตสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น จะได้จ้างงานคนไทยได้ค่าแรงสูงขึ้น"

ถ้าสรุปนโยบายต่างเป็นภาพ ได้ดังนี้ครับ

นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศของรัฐบาล

ขยาย ความก็คือ รัฐกระตุ้น ศก. โดย ทำให้ consumption(C) การบริโภค, investment(I) การลงทุน และ Goverment spending(G) การใช้จ่ายภาครัฐ เพิ่ม ซึ่ง C, I, G ส่วนหนึ่งของ GDP ถ้าตัวแปรเหล่านี้เพิ่ม GDP

ถ้าการบริโภคในประเทศเพิ่มแล้ว  กลุ่มใหน่ที่น่าลงทุน

คุณ DeerFreeDom [2]ให้มุมมองที่น่าสนใจว่า
"เงิน กำลังจะหมุนไป หมุนไปต่างจังหวัด นโยบายของรัฐบาล เป็นนโยบายที่เน้นไปที่การเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ของคนต่างจังหวัด ถ้าสามารถปลุก Demand ของคนต่างจังหวัดขึ้นมาได้ GDP ไทยจะโตอีกเยอะ

สัง เกตุไหม หุ้นค้าปลีก 3-4 ปีที่ผ่านมาขึ้นมา 1,000% ได้อย่างไร เพราะธุรกิจพวกนี้เขาเน้นขยายสาขาไปยึดทำเลงามๆๆ ต่างจังหวัดหมดแล้ว ธุรกิจอสังหาใหญ่ๆๆ เช่น SIRI ตอนนี้รายได้หลักมาจากต่างจังหวัดแล้ว
"
สรุปว่าทำมาหากินในไทยดีสุดแระ หุ้นส่งออกคงแย่หน่อย เจริญในการลงทุนนะครับ
ที่มา 
[1]https://www.facebook.com/DeerFreeDom/posts/2681602775930
[2]https://www.facebook.com/DeerFreeDom/posts/107327592776149

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น

สงสัยอะไรถามได้ครับผม