วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2557

งบกระแสเงินสดบอกอะไร

ภาพแสดงงบกระแสเงินสด
กระแสเงินสดในกิจการแบ่งเป็นสามกิจกรรมที่ต้องตัดสินใจ
1กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน CFO
  • บอก รายได้ รายจ่าย และการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์หมุนเวียน รายการหลักคือลูกหนี้ สินค้าคงเหลือ และเจ้าหนี้การค้า
  • ทำให้ทราบว่ากิจการมีรายการปรับปรุงทางบัญชีอะไรบ้าง 
    • รายจ่ายที่ไม่ใช่เงินสดจะถูกนำมาบวกกลับ ส่วนใหญ่เกิดจากการปรับปรุงมูลค่าของสินทรัพย์ให้ลดลง หรือหนี้สินสูงขึ้น เช่นหนี้สงสัยจะสูญ ค่าเผื่อสินค้าเสื่อมคูณภาพ ปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือ ขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ ขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงของเงินลงทุน สำรองหนี้สินคดีความ สำรองหนี้สิน สำรองผลประโยชน์พนักงาน
    • รายได้ที่ไม่ใช่เงินสดจะถูกนำมาหักออกไป ส่วนใหญ่เกิดจากการปรับปรุงมูลค่าของสินทรัพย์ให้เพิ่มขึ้น หรือหนี้สินสูงลดลง ส่วนใหญ่ก็เป็นการกลับรายการของข้อเมื้อกี้แหละจำง่ายๆ
  • แสดงให้เห็นการจัดประเภทรายการให้อยู่ถูกที่ถูกทางเข่น ปันผลรับ ดอกเบี้ยรับก็หักออกจาก CFO ไปอยู่ CFI กำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ ก็หักออกจาก CFO ไปแสดงยอดเงินสดรับทั้งหมด (มูลค่าบัญชี + กำไร) ใน CFI 
  • ใครมีพวก one time gain/lose อะไรเราเห็นหมด
  • การเปลี่ยนแปลงใน สินทรัพย์หมุนเวียน และหนี้หมุนเวียน (สินทรัพย์เพิ่มเงินลด หนี้เพิ่มเงินเพิ่ม) ให้ดู ระยะเวลาเก็บหนี้ ระยะเวลาขายสินค้า ระยะเวลาชำระเจ้าหนี้และวงจรเงินสดประกอบว่าเงินที่หมุนๆอยู่ปกติหรือไม่
2. กระแสเงินสดจากการลงทุน

  • เป็นการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (สินทรัพย์เพิ่มเงินลด )
  • รายการส่วนใหญ่ควรเป็นเงินลงทุนในที่ดินอาคารอุปกรณ์ แสดงว่าเอาเงินไปขยายกิจการตัวเอง
  • ถ้าเป็นเงินลงทุนในบริษัทย่อย ร่วม ก็ต้องไปดูว่าบริษัทที่ซื้อมาดีจริงหรือไม่
  • กระแสเงินสดจากการลงทุนส่วนใหญ่ไปทำอะไรที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจหลักถือว่าอาการน่าเป็นห่วง
  • ให้ดู ROA อัตราหมุนเวียนสินทรัพย์ประกอบ ว่าที่ลงทุนไปใช้งานคุ้มไหม
3. กระแสเงินสดจากการจัดหาเงิน
  • เป็นการเปลี่ยนแปลงในหนี้ และส่วนของผู้ถือหุ้น (หนี้ ทุน เพิ่มเงินเพิ่ม)
  • ถ้าเงินสดจากการดำเนินงานติดลบไม่ดี กิจการต้องหมุนเงินหัวปั่น
  • ดู DE ratio ROE ประกอบการวิเคาะห์

อัตราส่วที่เกี่ยวข้องกับกระแสเงินสด
  • คุณภาพกำไร = CFO หลังหักดอกเบี้ย / กำไรสุทธิ : กำไรทางบัญชีควรเป็นเงินสดด้วยจะดีมาก
  • Modified Interest Coverage ratio (MICR, ความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ย) = CFO ก่อนหักดอกเบี้ย / ดอกเบี้ยจ่าย : ถ้าเยอะๆแสดงว่าบริษัทมีกระแสเงินสดมาจ่ายดอกเบี้ยได้ บังคับกลายๆว่า CFO ต้องเป็นบวกถึงมีเงินมาจ่ายดอกเบี้ยได้
  • Modified Payback Period = หนี้ที่มีดอกเบี้ย / CFO หลังดอกเบี้ย : หนี้ที่มีใช้เวลากี่ปีจ่ายหมด 
  • Modified Current Ratio = CFO / หนี้หมุนเวียน ค่าประมาณ 0.4 ดี มองว่ามีเงินสดมาจ่ายหนี้หมุนเวียนหรือไม่ ถ้ามีสภาพคล่องสดใส่
  • Reinvestment ratio = เงินลงทุนในที่ดินอาคารอุปกรณ์(CFI) / ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (CFO) : ถ้าค่ามากๆ จะบอกว่าบริษัทลงทุนเยอะอนาคตจะโตได้ แต่ต้องดู ROA ROE ประกอบอย่าให้ค่าตก ไม่งั้นจะโตไม่แกร่ง

ศึกษาเรืองอัตราส่วนของงบกระแสเงินสดเพิ่มเติมได้ที่ facebook อ.สรรพงษ์ 
https://www.facebook.com/notes/sanpong-limthamrongkul/อัตราส่วนทางการเงินสำหรับการวิเคราะห์งบกระแสเงินสด/10202590070651411 

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น

สงสัยอะไรถามได้ครับผม