- p/e คือ ราคาหารด้วยกำไรต่อหุ้น
- p/b คือ ราคาหารด้วยมูลค่าทางบัญชี
- d/p คือ อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล
- ROE คืออัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น
- ROA คืออัตราผลตอลแทนต่อทรัพย์สิน
- ตัวเลขการเงินทั้ง5ตัว มีอยู่ใน website set.or.th ครับ
สรุปสั้นๆ ว่า p/e ใช้ได้ดีที่สุดครับ
……………
p/e ยิ่งต่ำยิ่งดี ผลตอบแทน 38.96% ต่อปี
ตามด้วย p/b ยิ่งต่ำยิ่งดี ผลตอบแทน 33.47% ต่อปี
และ ROE ยิ่งสูงยิ่งดี ผลตอบแทน 30.23% ต่อปี
ส่วน ROA นั้นถือว่าทับซ้อนกับ ROE และสู้ ROE ไม่ได้ ผลตอบแทน 22.02% ต่อปี
และ d/p หรือผลตอบแทนจากปันผล ซึ่งยิ่งสูงยิ่งดี ผลตอบแทน 20.38% ต่อปี
โดยสรุปแล้ว
หากต้องใช้อัตราส่วนทางการเงินตัวเดียว
เรียงตามลำดับตัวที่ทำให้ผลตอบแทนสูงสุดคือ
P/e p/b ROE d/p ครับ
ข้อมูลตามตารางครับ
![]() |
ผลตอบแทนเทียบกับผลตอบแทนตลาด |
![]() |
เลือกหุ้นมา 10 20 30 ตัว |
![]() |
2 ratio มาช่วยกัน |
![]() |
3 ratio มาช่วยกัน |
![]() |
มายกแพ๊ก 4 ratio รวด |
![]() |
หุ้นยิ่งน้อยยิ่งดี |
......
พวกเราที่ต้องการอ่านงานวิจัยล่วงหน้า ไปที่นี่นะครับ
............................
http://www.scienpress.com/journal_focus.asp?main_id=69&Sub_id=IV&Issue=822
อาจารย์ไพบูลย์อธิบายในรายการมันนี่ทอล์คไว้น่าสนใจคือจะเลือกและซื้อหุ้นตอนต้นเดือนมีนาคมหลังทราบตัวเลขค่าพีอีที่ปิดบัญชีประจำปีเรียบร้อยแล้วและจะขายออกตอนสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ทำอย่างนี้ทุกปีๆ
ตอบลบ