เป็นบทความเปรียบเทียบระหว่างการเล่น Poker กับการเล่นหุ้นให้สำเร็จครับ บทความต้นฉบับยาวมากแต่เขียนสรุปได้ดีครับ พูดถึงการควบคุมอารมณ์ในการลงทุน และการกล้าที่จะเสี่ยงถ้ามีโอกาศชนะมากๆ ดร. นิเวศเรียกว่า "ตีแตกกกกก..."
โดยย่อก็คือ ถ้อโอกาสมาถึงให้รีบคว้าให้เยอะที่สุด สำหรับในตลาดหุ้น มี 600 ตัวเราไม่จำเป็นต้องเข้าไปเล่นมันทุกตัวก็ได้ครับตลาดหุ้นเปิดทุกวัน ตกรถตัวนี้ก็ไปตัวอื่นที่ยังไม่วิ่งได้ ปีนึงขอแค่เจ๋งๆ ซัก 1-2 ตัว และลงทุนหนักๆ ก็ทำผลตอบแทนได้ชนะตลาดแล้วครับ โดยส่วนตัวคิดว่าหุ้นที่น่าตีแตกมีดังนี้ครับโอกาสได้ได้เยอะ ถ้าพลาดก็เจ๊บตัวนิดหน่อย
ส่วนอันนี้จากคุณ Niran Pravithana [2] ผู้พัฒนา App AVA ชื่อดังครับ
การเล่นโป๊กเกอร์ช่วยให้ผมเข้าใจโลกมากขึ้น
- Bad Beat
สอนเราให้เข้าใจว่า แม้คุณจะตัดสินใจเลือกทางที่ดีที่สุดแล้ว ทุกอย่างก็อาจไม่ได้เป็นไปอย่างที่หวัง การบริหารความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งจำเป็นเสมอ
- Bluff
สอนให้เราเข้าใจว่า สิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามแสดงออก มักไม่ตรงกับสิ่งที่เค้าคิดจริงๆ
- Fold
สอนให้เราเข้าใจว่า บางครั้ง การดื้อดึงฝืนทั้งที่สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยอาจจะทำให้เสียหายหนักกว่าการยอมแพ้แล้วเริ่มใหม่ ตราบใดที่หน้าตักยังเหลือ เราเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ
- All-in
สอนให้เราเข้าใจว่า การต่อสู้แบบทุบหม้อข้าวใส่ทั้งชีวิต บางครั้งก็ให้ผลคุ้มค่า แต่ต้องเลือกจังหวะทุ่มด้วยสมอง ไม่ใช่ด้วยอารมณ์
- ความอดทนให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าเสมอ การใช้อารมณ์มีแต่จะทำให้ทุกอย่างพังเร็วไปกว่าเดิม
- วางแผนการระยะยาว มองให้ไกลถึง River อย่าเอาแต่แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพราะเมื่อสถานการณ์เปลี่ยน คุณจะรับมือมันไม่ไหว คิดเผื่อ Plan B,C,D เอาไว้เสมอ
- การประเมินคู่ต่อสู้เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าอยากได้ประสบการณ์ ขึ้นชั้นไปสู้กับคนเก่งๆ แน่นอนคุณต้องจ่ายค่าเทอมแพง เลี่ยงไม่ได้ แต่ถ้าผ่านไปได้ คุณจะทำเงินได้ในอีกระดับ
- แต่ถ้าอยากแค่ได้เงิน ลงสู้กับคนที่อ่อนกว่า แต่คุณจะทำเงินได้แค่ระดับนั้นแหละไม่ก้าวไปไหน และก็จะไม่ได้เก่งอะไรขึ้นมาเลย ต้องเลือกเอาว่าจะไปทางไหน เงิน หรือประสบการณ์ (เหมือนชีวิตการทำงานนั่นแหละ)
จงมีความสุข หากคุณเล่นได้ดี แม้ว่าผลจะออกมาไม่สวยดังหวัง
พยายามต่อไป ด้วยกฏ law of large number คุณจะชนะเกมส์ไม่ว่าจะบนโต๊ะโป๊กเกอร์หรือในชีวิตจริงในที่สุด
เจริญในการลงทุนทุกท่านครับ
ที่มา:
[1]http://www.kid-vi.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539377538&Ntype=7
[2]https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10217881677806322
- โต๊ะเดิมพันที่ใหญ่ที่สุดของ Poker คือ ตลาดหลักทรัพย์
- กลยุทธ์สำคัญในการเอาชนะ Poker กับ หุ้น คือเหตุผลเดียวกัน คือ โอกาสชนะมีเท่าไร
- ในตลาดหุ้นมี การทบต้นทบดอก ใน Poker ก็มี ทบต้นทบดอก เช่นเดียวกันในตลาดหุ้นถ้าคุณไม่สามารถทบต้นทบดอกได้ เมื่อเวลาผ่านไป เงินที่ลงทุนจะด้อยค่าลงไปเรื่อย ๆ
- ในเกมส์ Poker ต้องมีวางแผนจัดการทางการเงิน money management อยู่ตลอดเวลา ไม่เล่นข้ามรุ่น เหมือนหุ้นคุณต้องไม่คิดยืมเงินคนอื่นมาเล่น
- นอกจากคุณจะมีกลยุทธ์ที่ดี คุณต้องมีสติในการควบคุมอารมณ์ ให้ยึดมั่นในกลยุทธ์ที่วางไว้ เพราะตลอดเวลาที่คุณเล่น คุณจะถูกยั่วยุอยู่ตลอดเวลา
- เงินเดิมพันใน Poker เหมือนกับเงินที่คุณจะลงทุนในหุ้นแต่ละตัว ถ้าคุณมีโอกาสชนะมากให้เดิมพันหรือลงทุนในปริมาณที่มากตามโอกาสที่จะชนะ
- ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่ปิเตอร์ลินช์ กล่าวในหนังสือ เหนือกว่าวอลสตรีท ว่า "การลงทุนคือการพนันที่่จัดโอกาสชนะให้เอียงมาอยู่ด้านคุณ"
- ผมถือว่าเกมส์นี้เป็น การทดสอบ การคัดคน ในเรื่องการควบคุมอารมณ์ได้ เป็นอย่างดี ถ้าคุณเล่นแล้วหมดตลอด มีแนวโน้มว่าคุณก็จะเล่นหุ้นได้ไม่ดี เพราะคุณไม่สามารถควบคุมสติคุณได้ แม้ว่าคุณจะรู้กลยุทธ์ที่สำคัญ ในการทำเงินในตลาดหุ้นก็ตาม
โดยย่อก็คือ ถ้อโอกาสมาถึงให้รีบคว้าให้เยอะที่สุด สำหรับในตลาดหุ้น มี 600 ตัวเราไม่จำเป็นต้องเข้าไปเล่นมันทุกตัวก็ได้ครับตลาดหุ้นเปิดทุกวัน ตกรถตัวนี้ก็ไปตัวอื่นที่ยังไม่วิ่งได้ ปีนึงขอแค่เจ๋งๆ ซัก 1-2 ตัว และลงทุนหนักๆ ก็ทำผลตอบแทนได้ชนะตลาดแล้วครับ โดยส่วนตัวคิดว่าหุ้นที่น่าตีแตกมีดังนี้ครับโอกาสได้ได้เยอะ ถ้าพลาดก็เจ๊บตัวนิดหน่อย
- ราคา side way มานาน แต่มี volume ซื้อขายทุกวัน
- กิจการพื้นฐานดีงบสวย
- คาดว่าธุรกิจจะมีกำไรเพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดอนาคต เช่นจะขยายโรงงานใหม่ จำนวนลูกค้าเข้าใกล้จุดคุ้มทุน วัฎจักรอุตสาหกรรมเป็นขาขึ้น มีโครงการลดต้นทุน หรือถ้าขาดทุนก็คิดว่าจะกลับมาดี
- จากข้อสามท่านสามารถคำนวณเป้าหมายราคามี upside สูงมากถ้าทำสำเร็จ
- ให้ท่านศึกษาในข้อ 2 3 4 ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนท่านมั่นใจในตัวธุรกิจ ท่านแค่ซื้อแล้วถือให้ กำไรมาจริงตามที่ท่านคาด
ส่วนอันนี้จากคุณ Niran Pravithana [2] ผู้พัฒนา App AVA ชื่อดังครับ
การเล่นโป๊กเกอร์ช่วยให้ผมเข้าใจโลกมากขึ้น
- Bad Beat
สอนเราให้เข้าใจว่า แม้คุณจะตัดสินใจเลือกทางที่ดีที่สุดแล้ว ทุกอย่างก็อาจไม่ได้เป็นไปอย่างที่หวัง การบริหารความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งจำเป็นเสมอ
- Bluff
สอนให้เราเข้าใจว่า สิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามแสดงออก มักไม่ตรงกับสิ่งที่เค้าคิดจริงๆ
- Fold
สอนให้เราเข้าใจว่า บางครั้ง การดื้อดึงฝืนทั้งที่สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยอาจจะทำให้เสียหายหนักกว่าการยอมแพ้แล้วเริ่มใหม่ ตราบใดที่หน้าตักยังเหลือ เราเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ
- All-in
สอนให้เราเข้าใจว่า การต่อสู้แบบทุบหม้อข้าวใส่ทั้งชีวิต บางครั้งก็ให้ผลคุ้มค่า แต่ต้องเลือกจังหวะทุ่มด้วยสมอง ไม่ใช่ด้วยอารมณ์
- ความอดทนให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าเสมอ การใช้อารมณ์มีแต่จะทำให้ทุกอย่างพังเร็วไปกว่าเดิม
- วางแผนการระยะยาว มองให้ไกลถึง River อย่าเอาแต่แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพราะเมื่อสถานการณ์เปลี่ยน คุณจะรับมือมันไม่ไหว คิดเผื่อ Plan B,C,D เอาไว้เสมอ
- การประเมินคู่ต่อสู้เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าอยากได้ประสบการณ์ ขึ้นชั้นไปสู้กับคนเก่งๆ แน่นอนคุณต้องจ่ายค่าเทอมแพง เลี่ยงไม่ได้ แต่ถ้าผ่านไปได้ คุณจะทำเงินได้ในอีกระดับ
- แต่ถ้าอยากแค่ได้เงิน ลงสู้กับคนที่อ่อนกว่า แต่คุณจะทำเงินได้แค่ระดับนั้นแหละไม่ก้าวไปไหน และก็จะไม่ได้เก่งอะไรขึ้นมาเลย ต้องเลือกเอาว่าจะไปทางไหน เงิน หรือประสบการณ์ (เหมือนชีวิตการทำงานนั่นแหละ)
จงมีความสุข หากคุณเล่นได้ดี แม้ว่าผลจะออกมาไม่สวยดังหวัง
พยายามต่อไป ด้วยกฏ law of large number คุณจะชนะเกมส์ไม่ว่าจะบนโต๊ะโป๊กเกอร์หรือในชีวิตจริงในที่สุด
เจริญในการลงทุนทุกท่านครับ
ที่มา:
[1]http://www.kid-vi.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539377538&Ntype=7
[2]https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10217881677806322
แนะนำเว็บพูดคุยเกี่ยวกับโป๊กเกอร์ของไทยนะครับ http://www.thaipokerforum.com
ตอบลบ