วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2556

กลยุทธ์การเล่น Poker กับการลงทุนหุ้น

เป็นบทความเปรียบเทียบระหว่างการเล่น Poker กับการเล่นหุ้นให้สำเร็จครับ บทความต้นฉบับยาวมากแต่เขียนสรุปได้ดีครับ พูดถึงการควบคุมอารมณ์ในการลงทุน และการกล้าที่จะเสี่ยงถ้ามีโอกาศชนะมากๆ ดร. นิเวศเรียกว่า "ตีแตกกกกก..."

  1. โต๊ะเดิมพันที่ใหญ่ที่สุดของ Poker คือ ตลาดหลักทรัพย์
  2. กลยุทธ์สำคัญในการเอาชนะ Poker กับ หุ้น คือเหตุผลเดียวกัน คือ โอกาสชนะมีเท่าไร
  3. ในตลาดหุ้นมี การทบต้นทบดอก ใน Poker ก็มี ทบต้นทบดอก เช่นเดียวกันในตลาดหุ้นถ้าคุณไม่สามารถทบต้นทบดอกได้ เมื่อเวลาผ่านไป เงินที่ลงทุนจะด้อยค่าลงไปเรื่อย ๆ
  4. ในเกมส์ Poker ต้องมีวางแผนจัดการทางการเงิน money management อยู่ตลอดเวลา ไม่เล่นข้ามรุ่น เหมือนหุ้นคุณต้องไม่คิดยืมเงินคนอื่นมาเล่น
  5. นอกจากคุณจะมีกลยุทธ์ที่ดี คุณต้องมีสติในการควบคุมอารมณ์ ให้ยึดมั่นในกลยุทธ์ที่วางไว้ เพราะตลอดเวลาที่คุณเล่น คุณจะถูกยั่วยุอยู่ตลอดเวลา
  6. เงินเดิมพันใน Poker เหมือนกับเงินที่คุณจะลงทุนในหุ้นแต่ละตัว ถ้าคุณมีโอกาสชนะมากให้เดิมพันหรือลงทุนในปริมาณที่มากตามโอกาสที่จะชนะ
  7. ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่ปิเตอร์ลินช์ กล่าวในหนังสือ เหนือกว่าวอลสตรีท ว่า "การลงทุนคือการพนันที่่จัดโอกาสชนะให้เอียงมาอยู่ด้านคุณ"
  8. ผมถือว่าเกมส์นี้เป็น การทดสอบ การคัดคน ในเรื่องการควบคุมอารมณ์ได้ เป็นอย่างดี ถ้าคุณเล่นแล้วหมดตลอด มีแนวโน้มว่าคุณก็จะเล่นหุ้นได้ไม่ดี  เพราะคุณไม่สามารถควบคุมสติคุณได้  แม้ว่าคุณจะรู้กลยุทธ์ที่สำคัญ  ในการทำเงินในตลาดหุ้นก็ตาม

โดยย่อก็คือ ถ้อโอกาสมาถึงให้รีบคว้าให้เยอะที่สุด สำหรับในตลาดหุ้น มี 600 ตัวเราไม่จำเป็นต้องเข้าไปเล่นมันทุกตัวก็ได้ครับตลาดหุ้นเปิดทุกวัน ตกรถตัวนี้ก็ไปตัวอื่นที่ยังไม่วิ่งได้ ปีนึงขอแค่เจ๋งๆ ซัก 1-2 ตัว และลงทุนหนักๆ ก็ทำผลตอบแทนได้ชนะตลาดแล้วครับ โดยส่วนตัวคิดว่าหุ้นที่น่าตีแตกมีดังนี้ครับโอกาสได้ได้เยอะ ถ้าพลาดก็เจ๊บตัวนิดหน่อย

  1. ราคา side way มานาน แต่มี volume ซื้อขายทุกวัน
  2. กิจการพื้นฐานดีงบสวย
  3. คาดว่าธุรกิจจะมีกำไรเพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดอนาคต เช่นจะขยายโรงงานใหม่ จำนวนลูกค้าเข้าใกล้จุดคุ้มทุน วัฎจักรอุตสาหกรรมเป็นขาขึ้น มีโครงการลดต้นทุน หรือถ้าขาดทุนก็คิดว่าจะกลับมาดี
  4. จากข้อสามท่านสามารถคำนวณเป้าหมายราคามี upside สูงมากถ้าทำสำเร็จ
  5. ให้ท่านศึกษาในข้อ 2 3 4 ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนท่านมั่นใจในตัวธุรกิจ ท่านแค่ซื้อแล้วถือให้ กำไรมาจริงตามที่ท่านคาด


ส่วนอันนี้จากคุณ Niran Pravithana [2] ผู้พัฒนา App AVA ชื่อดังครับ


การเล่นโป๊กเกอร์ช่วยให้ผมเข้าใจโลกมากขึ้น

- Bad Beat

สอนเราให้เข้าใจว่า แม้คุณจะตัดสินใจเลือกทางที่ดีที่สุดแล้ว ทุกอย่างก็อาจไม่ได้เป็นไปอย่างที่หวัง การบริหารความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งจำเป็นเสมอ

- Bluff

สอนให้เราเข้าใจว่า สิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามแสดงออก มักไม่ตรงกับสิ่งที่เค้าคิดจริงๆ

- Fold

สอนให้เราเข้าใจว่า บางครั้ง การดื้อดึงฝืนทั้งที่สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยอาจจะทำให้เสียหายหนักกว่าการยอมแพ้แล้วเริ่มใหม่ ตราบใดที่หน้าตักยังเหลือ เราเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ

- All-in

สอนให้เราเข้าใจว่า การต่อสู้แบบทุบหม้อข้าวใส่ทั้งชีวิต บางครั้งก็ให้ผลคุ้มค่า แต่ต้องเลือกจังหวะทุ่มด้วยสมอง ไม่ใช่ด้วยอารมณ์

- ความอดทนให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าเสมอ การใช้อารมณ์มีแต่จะทำให้ทุกอย่างพังเร็วไปกว่าเดิม

- วางแผนการระยะยาว มองให้ไกลถึง River อย่าเอาแต่แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพราะเมื่อสถานการณ์เปลี่ยน คุณจะรับมือมันไม่ไหว คิดเผื่อ Plan B,C,D เอาไว้เสมอ

- การประเมินคู่ต่อสู้เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าอยากได้ประสบการณ์ ขึ้นชั้นไปสู้กับคนเก่งๆ แน่นอนคุณต้องจ่ายค่าเทอมแพง เลี่ยงไม่ได้ แต่ถ้าผ่านไปได้ คุณจะทำเงินได้ในอีกระดับ

- แต่ถ้าอยากแค่ได้เงิน ลงสู้กับคนที่อ่อนกว่า แต่คุณจะทำเงินได้แค่ระดับนั้นแหละไม่ก้าวไปไหน และก็จะไม่ได้เก่งอะไรขึ้นมาเลย ต้องเลือกเอาว่าจะไปทางไหน เงิน หรือประสบการณ์ (เหมือนชีวิตการทำงานนั่นแหละ)

จงมีความสุข หากคุณเล่นได้ดี แม้ว่าผลจะออกมาไม่สวยดังหวัง
พยายามต่อไป ด้วยกฏ law of large number คุณจะชนะเกมส์ไม่ว่าจะบนโต๊ะโป๊กเกอร์หรือในชีวิตจริงในที่สุด

เจริญในการลงทุนทุกท่านครับ
ที่มา:
[1]http://www.kid-vi.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539377538&Ntype=7
[2]https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10217881677806322

1 ความคิดเห็น :

สงสัยอะไรถามได้ครับผม