1.กลุ่มลูกค้านักลงทุน
ชอบธุรกิจที่มีความสามารถในการแข่งขัน ธุรกิจเติบโตได้ยาวๆ ราคาเหมาะสม สะท้อนการเติบโตระยะยาวและอัตราผลตอบแทนปันผล
เราอาจซื้อตั้งแต่ช่วงเริ่มเติบโตงบอาจยังไม่สวย ปันผลไม่เยอะ เดี๋ยวธุรกิจอยู่ตัวลูกค้ากลุ่มนี้ก็มาซื้อต่อเอง
2.กลุ่มลูกค้านักเกร็งกำไร
หุ้นดีแค่ไหนก็ยังไม่ซื้อถ้ายังไม่ขึ้น ทางร้านหุ้นต้องหาสินค้ามาใหม่เรื่อยๆ
ถ้าหุ้นในคลังของเราถูกตลาดปั่นขึ้นไปจนเกินมูลค่ามาก PE สูงๆ อนาคตมองไม่เห็นว่ากำไรจะโตไปสะท้อนราคานั้นได้อย่างไร ก็ควรขายให้ลูกค้ากลุ่มนี้ เพราะเขาเอากำไรไม่มาก 2 ช่องออก
3.การจัดการสินค้าคงเหลือ
ถ้าตุนสินค้าไว้และไม่มีคนมาซื้อต่อ (ติดดอย) กรณีที่เราเลือกบริษัทที่ดีตั้งแต่ต้น มันจะโตขึ้นเรื่อยๆ
ทิ้งไว้นานราคายิ่งแพง ในทางกลับกันถ้าถือหุ้นเน่าไว้ แล้วมันไม่ตีจริงอาจต้องตังสำรองด้อยค่าขาดทุนกันไป
4.การจัดหาเงินทุน
แหล่งเงินทุนมาจากสองแหล่งคือเงินกู้และส่วนทุน
4.1แหล่งเงินกู้
ส่วนใหญ่เป็นบัญชีแบบมาร์จิ้นพอร์ทใหญ่ๆ หน่อยก็ไปขอมาร์เปิดได้ ข้อดีคือเป็นการเพิ่มผลตอบแทนให้สูงขึ้น
4.2ส่วนทุน
เงินทุนมาจากการเพิ่มทุนจากรายได้หักร่ายจ่ายเหลือก็เติมพอร์ทเรื่อยๆ กับอีกทางคือกำไรสะสม จากปันผลและสวนต่างราคา มาลงทุนซ้ำเรื่อยๆ
นี่ก็เป็นแนวทางหนึ่งในการทำมาหากินในตลาดหุ้นครับผม นอกจากนี้ยังมีแนวทางอีกเยอะตามจิตนาการของแต่ละบุคคลอีก
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น
สงสัยอะไรถามได้ครับผม