"ครั้งหนึ่งอับราฮัม ลินคอล์นต้องเป็นทนายในการว่าความคดีบริษัทรถไฟกับสิทธิเหนือลำน้ำสายหนึ่ง ทนายฝ่ายตรงข้ามเป็นคนพูดเก่งมาก พูดดีมาก พูดแม่งเกือบ3ชั่วโมง คนฟังเคลิบเคลิ้มและเออออห่อหมกด้วย แต่ไม่มีใครจำเนื้อหาสาระที่ทนายคนนี้พูดได้เลย
อับราฮัม ลินคอล์นพูดแค่เพียงว่า "ประเด็นที่ต้องคุยกันมีแค่สิทธิของบริษัทรถไฟมีเหนือสิทธิของผู้คนที่อาศัยอยู่เหนือลำน้ำหรือไม่"
หุ้นก็เหมือนกัน ต่อให้คุณจะอารัมภบทสตอรี่มาขนาดไหน เอาแม้แต่รายละเอียดจุ๊กจิ๊กมาสร้างความน่าเชื่อถือ ประเด็นหลักคือบริษัทมีปัญญารบกับคนอื่นบนความคาดหวังที่สูงๆมั้ย เปรียบเทียบกับคาดหวังว่ากองทัพที่มี100คนจะชนะ1หมื่นคนและให้ราคาว่าจะชนะไปแล้ว แต่ความเป็นจริงสามารถชนะได้ไหม นี่คือหัวใจหลัก ไม่ใช่เอารายละเอียดที่ไม่จำเป็นมาประกอบมั่วไปหมด "จะชนะหรือไม่ชนะ" ไม่ใช่ทหารใส่เกราะสวยกว่าข้าศึก ทหารหล่อกว่า ไม่ใช่ละ"
สรุปว่าเราต้องหาประเด็นสำคัญในการลงทุนของหุ้นแต่ละตัวให้เจอ จะช่วยให้การลงทุนงายขึ้น สำหรับการลงทุนประเด็นสำคัญคือ "การเปลี่ยนแปลงของกำไร" วิเคราะห์กันแทบตายสุดท้ายจบที่กำไร นักลงทุนระยะยาวต้องการปันผลจากส่วนแบ่งของกำไรกำไรอยากให้กำไรโตเรื่อยๆ นักเก็งกำไรก็เข้าซื้อบริษัทที่คาดว่าจะกำไรกระโดด นักเทคนิคก็เข้าซื้อบริษัทที่มีกำไร
เวลาวิเคราะห์ต้องจับข้อมูลที่ได้รับมาประมวลว่ากระทบกำไรอย่างไร โดยประเด็นหลักที่จะกระทบกำไรมีดังนี้
- ยอดขาย
- ต้นทุน
- ลงทุนสินทรัพย์ ขายสินทรัพย์ -> ลงทุนเพิ่มยอดขายพิ่มแต่ก็มีค่าเสื่อมราคากวนใจนิดหน่อย คุ้มค่าเสื่อมก็มีกำไร
- เพิ่มหนี้ ลดหนี้ -> ดอกเบี้ย
- เพิ่มทุนลดทุุน
การวิเคราะห์ว่าอะไรสำคัญ จุดตัดสินใจคือประเด็นนั้นต้องมีผลกระทบกับกำไรอย่างมีนัยสำคัญทำให้กำไรเพิ่มขึ้นหรือลดลง 20-30% ขึ้นไป พวกรายละเอียดเล็กๆน้อยกระทำกำไรไม่เยอะปล่อยผ่านบ้างก็ได้
[1] https://www.facebook.com/week.nip/posts/10153839737875078?stream_ref=10
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น
สงสัยอะไรถามได้ครับผม