เจ้าของที่ดิน(Land) คิดในหัวอย่างเดียวคือจะเก็บค่าเช่า
แรงงาน(labor) ทำงานก็ได้ค่าแรง ในหัวก็คือทำงานแล้วคุ้มค่าแรงไหม สิ้นเดือนไปเที่ยวไหนดี เงินเดือนออกแล้วไปผ่อนมือถือรุ่นไหนดี ไม่คุ้มก็ไปหาที่อื่น
นักลงทุน(Capital) ในหัวจะคิดอยู่สองอย่างคือผลตอบแทน(return) และความเสี่ยง(risk) สำหรับการลงทุนในหุ้นเงินของเราจะอยู่ในส่วนของเจ้าของผลตอบแทนที่ได้คือได้ส่วนแบ่งกำไรออกมาในรูปเงินปันผล(ถ้าบริษัทมีกำไร) แต่ในบริษัทมหาชนเจ้าของทุนมีจำนวนมากบางคนก็ถือไม่ถึง 1% จะได้บริหารทั้งหมดก็ไม่ได้ดั้งนั้นการบริหารก็จะผ่านคณะกรรมการบริษัทซึ่งจะเป็นตัวแทนนักลงทุนไปบี้ CEO หรือ(ผู้ประกอบการ(Entrepreneurship)) ให้ทำงานให้เราตามเป้า เช่นปีนี้ต้องการ Return on equity(ROE) 10% ไปทำมาถ้าทำไม่ได้ก็ไล่ออกไปทำงานที่อื้นไป้
ดังนั้นหน้าที่ของผู้ประกอบการหรือ CEO ก็จะทำหน้าที่ประสานผลประโยชน์ของเจ้าของทรัพย์ยากรทั้งสามก็คือที่ดิน(Land) ทุน(Capital) แรงงาน(labor) และก็ทำหน้าที่วางกลยุทธ์ว่าจะพาทรัพย์ยากรไปทางไหน สำหรับผู้บริหารมีหน้าที่ที่ต้องทำสามสิ่งคือ 1 วางแผน 2 ควบคุม 3 ติดตาม เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพและปริสิทธิผลตรงตามที่ลู้ค้าต้องการ ส่วนกำไรเป็นของเรา(นักลงทุน)
ดังนั้นเวลาลงทุนในตลาดต้องรู้ตัวครับว่าตอนนี้เราสวมหมวกเป็นนักลงทุน ก็ต้องคิดแบบนักลงทุนในหัวคิดแค่เรื่องผลตอบแทนและความเสี่ยง และความคุ้มค่าในการลงทุน บวกกับดูทิศทางลมว่า CEO จะพาเราไปทางไหน ถ้าพาทุนของเราไปสู้ในตลาดที่แข่งกันดุ คู่แข่งเยอะ การบริหารภายในก็ไม่ดี ก็สละเรื่อเถ้อ
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น
สงสัยอะไรถามได้ครับผม