สำหรับการแข่งขันในธุรกิจ.com คำกล่าวโบราณที่ว่า"เงินไม่มีขา ต้องให้คนพามา"ก็ยังใช้ได้อยู่ ถ้าดึงให้คนมาใช้บริการได้เยอะๆก็ขายโฆษณาได้เยอะ ธุรกิจ "เว็ปเบราว์เซอร์" ก็เหมือนกันเพราะสมัยนี้ทำงานทุกอย่างผ่านอินเตอร์เน็ตเบราว์เซอร์ก็เป็นเหมือนประตูในการท่องโลกออนไลน์ ทุกครั้งที่เปิดคอมโปรแกรมแรกที่เปิดคือเว็ปเบราว์เซอร์ ดังนั้นถ้าใครสามารถให้คนค้นเน็ตทั่วโลกเป็นล้านๆคนท่องเน็ตผ่านเบราว์เซอร์ตัวเองได้เงินมันก็จะเข้ามา ในปีที่ผ่านมา Mozilla เจ้าของเบราว์เซอร์ firefox สามารถหาเงินได้ถึง 300 ล้านดอลลาร์จากการเซ้นสัญญาของ กูเกิลว่าจะเอา tool การค้นหาของตัวเองมาใส่ในเบราว์เซอร์[1]
ยุคก่อนที่ firefox จะเข้ามาเจ้าตลาดเว็ปเบราว์เซอร์ก็คือ เล็กนุ่ม(Microsoft) กลยุทธ์ง่ายมากในการเอาชนะ Netscapt ที่เป็นคู่แข่งที่ครองส่วนแบ่งการตลาดถึง 90% โดยเอา Internet explorer ไปรวมเป็นส่วนหนึ่งของ OS ซะ เล่นซะ Netscapt หงายท้องไปไม่เป็นเลยทีเีดียวต้องขายกิจการให้ AOL และ AOL ก็ประกาศยุติการพัฒนาในปี 51 [2]
หลังจาก IE ครองตลาดได้ซักพัก ก็มีคู่แข่งใหม่เข้ามาท้าทายคือ Mozilla ได้พัฒนาเบราว์เซอร์ firefox ด้วยกลยุทธ์ความแตกต่างด้วยความ เร็วกว่า มีฟีเจอร์เยอะกว่า และที่สำคัญฟรี ทำให้สามารถดึงส่วนแบ่งการตลาดจาก IE ไปได้เยอะครับ
David Ascher ผู้บริหารของ Mozilla บอกว่า [3] เป้าหมายของ Mozilla คือดึงศักยภาพของเว็บออกมาให้เต็มที่ (จากที่เคยถูก IE6 กดเอาไว้) โดยสร้างเบราว์เซอร์ที่ทำงานได้รวดเร็ว มีฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์ และมีฐานผู้ใช้เป็นจำนวนมาก ซึ่งผลที่ได้ (หมายถึงการออก Firefox) ออกมาค่อนข้างดี นั่นคือเบราว์เซอร์พัฒนาไปเยอะมาก มาตรฐานเว็บก็พัฒนาตาม และเว็บไซต์เองก็น่าสนใจกว่าเดิม
ปัจจุบัน เทคโนโลยีเปลี่ยนไป web service ใหม่ๆ ก็เข้ามามากขึ้น มีคู่แข่งรายใหม่ก็เข้ามาและรายเก่าก็ปรับตัวไม่ยอมแพ้เช่นกันเช่น chrome ของ google ,IE9 ของ micro soft, กลยุทธ์ที่ firefox ใช้ในการแข่งขันก็ต้องปรับตัวจะใช้ business model แบบเดิมไม่ได้อีกต่อไป David Ascher ผู้บริหารของ Mozilla บอกว่า [3] ตอนนี้เบราว์เซอร์ไม่ใช่เรื่องสำคัญเพียงเรื่องเดียวของชี วิตออนไลน์อีกแล้ว เพราะมีประเด็นใหม่อีก 3 ประเด็นที่ปรากฏขึ้นมา และ Mozilla ควรจะให้ความสนใจกับมัน
ประเด็นทั้งสามได้แก่
- การทำงานระดับต่ำกว่าเบราว์เซอร์ โดย Mozilla กำลังทดลองผ่านโครงการ Boot to Gecko เป้าหมายของมันคือสร้างประสบการณ์การใช้อินเทอร์เน็ตให้เหมือนๆ กันในทุกที่ โดยเฉพาะบนมือถือที่มีความแตกต่างกันสูงมาก
- อัตลักษณ์ของผู้ใช้ (user identity) เมื่ออินเทอร์เน็ตมีความซับซ้อนขึ้น และผู้ใช้ต้องแสดงตัวเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ มากขึ้น การบริหารจัดการอัตลักษณ์ก็มีความสำคัญเยอะขึ้น แต่ระบบล็อกอินอย่าง Facebook Connect กลับยังไม่ตอบโจทย์ในบางเรื่อง ตอนนี้ Mozilla เลยกำลังทดลองโครงการ BrowserID ซึ่งเป็น "ระบบ" สำหรับการล็อกอินที่ทำงานได้ข้ามเว็บไซต์ ล็อกอินได้จากตัวเบราว์เซอร์เลย และมีผู้ยืนยันตัวตนได้หลายราย โครงการนี้จะทำงานได้กับเบราว์เซอร์ทุกตัว ไม่ใช่แค่ Firefox เท่านั้น
- แอพ ที่หมายถึงแอพทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นแอพมือถือหรือเว็บแอพ โดย Mozilla ทดลองผ่านโครงการ Apps initiative ซึ่งแบ่งงานออกเป็นสองส่วน ได้แก่การนำเทคโนโลยีเว็บมาสร้างแอพที่ทำงานได้ทุกที่ และสร้างมาตรฐานกลางของการขายและติดตั้งแอพของร้านขายแอพต่างๆ
นี่แหละครับสิ่งแวดล้อมทางธุรกิจเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาธุรกิจต้องปรับตัวตลอดเวลา ถ้าปรับตัวไม่ได้ก็ตาย
ที่มา
[1]Blognone.com,"เผยตัวเลขสัญญากูเกิลจ่าย Mozilla ตกปีละ 300 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากเดิม 3 เท่า"
[2]Blognone.com,"ลาก่อน Netscape Navigator"
[3]Blognone.com,"Mozilla บอกสงครามเบราว์เซอร์จบแล้ว เผย 3 ยุทธศาสตร์ใหม่"
[4]Blognone.com,"วิศวกร Chrome บอก Firefox เป็นเพื่อน ไม่ใช่คู่แข่ง"
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น
สงสัยอะไรถามได้ครับผม