1.โหลด FILNG
Filling เป็นข้อมูลที่ ผู้ทำ IPO ต้องจัดทำและส่งข้อมูลให้ กลต พิจารณาว่าจะให้ผ่านเข้าซื้อขายในตลาดได้หรือไม่ มีด่านอรหันต์ หลายด่านเช่น การควบคุมภายใน ระบบบัญชีมาตรฐาน IFRS การขจัดความขัดแย้งเชิงผลประโยชน์ การเปิดเผยรายการระหว่างกัน ฯลฯ
ข้อมูล IPO ของ SET กดที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ |
ข้อมูล Filing ของบริษัทที่จะ IPO เข้าทำการซื้อขายที่ตลาดสามารถเข้าไปโหลดได้ที่
- เว็บตลาด http://www.set.or.th/th/company/ipo/upcoming_ipo_set.html
- เว็บ กลต http://capital.sec.or.th/webapp/corp_fin2/cgi-bin/result69ot.php?offertype_id=01
เข้าไปก็จะเจอข้อมูลประมาณนี้ เหมือนอ่าน 56-1 กันเลยทีเดียว ผมว่าไหนๆ จะเสียเงินแล้วก็อ่านซะหน่อยดีกว่า FA กลต จะได้ไม่เสียใจ โดยหัวข้อหลักๆ ที่อย่างน้อยควรอาน ก็ที่ผมทำสีเหลืองๆ เอาไว้
หัวข้อในเอกสาร Filing ที่ส่งให้ กลต |
2.ดูลักษณะธุรกิจ
จากไฟล์ลักษณะการประกอบธุรกิจ ก็เป็นเศรษฐกิจพอเพียง เลี้ยงไก่ หมู ทำอาหารสัตรว์ ยอดขายหลักๆ มาจากธุรกิจไก่ ดังนั้นจะวิเคราะห์ก็เน้นไก่เป็นหลักเพราะกระทบรายได้มากกว่าโครงสร้างรายได้ กดที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ |
ถ้าอยากรู้ว่ามีสินทรัพย์อะไรซุกๆไว้บ้างก็เข้าไปดูที่สินทรพัย์ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ ก็จะมีที่ดินว่ามีกี่แปลง ราคาประเมินเท่าไร
3.ดูผลประกอบการ
งบการเงินอ่านให้เข้าไปดูที่ไฟล์ "ข้อมูลทางการเงินที่สำคัญ" ดูเร็วๆ ให้ดูตรงอัตราส่วนทางการเงิน อยากเจาะลึกงบการเงินก็มีข้อมูลงบการเงินแต่ละปีให้โหลดได้ (ถ้าขยันอ่านนะ)สรุปงบการเงิน กดที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ |
อัตราส่วนทางการเงิน กดที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ |
เรื่องหนี้สินจะเห็นว่า TFG เป็นบริษัทที่หี้สินเยอะๆ DE 3 เท่ากว่า
ในส่วนของการสร้างเงินสด สภาพคล่องก็พอใช้ได้ แต่ไม่ค่อยแกร่งมากเท่าไร เพราะอัตราส่วนสภาพคล่องกระแสเงินสด ติดลบหลายปี แสดงว่ากระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นลบ
ส่วนเรื่องวงจรเงินสดก็พอใช้ได้้อนข้างสม่ำเสมอที่น่าสนใจคือในปี 2554 ลูกหนี้การค้าค้างกับบริษัทเยอะ ระยะเวลาเก็บหนี้ 54 วัน แล้วก็ลดมากที่่ระดับ 7-8 วันปกติได้
ในส่วนของการทำกำไร TFG เป็นตามปกติของธุรกิจเกษตรคือบางปีดีบางปีก็ไม่ดี หลักๆให้ดูอัตรกำไรขั้นต้น เคยขาดทุนหนักๆมาตอน 2556 หลังน้ำท่วมราคาไก่ตกมากเพราะเกร็งกันว่ายุโรปจะกลับมานำเข้าไก่สดแช่เข็งจากไทย แต่ดันมาช้ากว่าที่คาดทำให้ไก่ล้นตลาด กว่าจะปกติก็ผ่านไป 1 ปี กับ 2558 ช่วงเข้าตลาดพอดี ช่วงนี้ก็ไก่ล้นตลาดเพราะค่าเงินเราอ่านสู้ชาวบ้านเขาไม่ได้ ก็เลยไปนำเข้าจากที่อื่่นดีกว่า
การจ่ายปันผล ปกติของบริษัทช่วงก่อนเข้าตลาดกำไรมาเท่าไรก็ต้องเร่งปันผลออกไปก่อน เหมือนล้างไพ่ให้คนซื้อ IPO มาเริ่มต้นชีวิตกันใหม่
4.ดูว่าบริษัทเอาเงินไปทำอะไร
หุ้น IPO เข้ามาก็ต้องเอามาพัฒนาธุรกิจ สวนที่บอกว่าจะเอาเงินที่ได้ไปทำอะไร อยู่ตรง รายการโครงการในอนาคต กับส่วนของข้อมูลสรุปก็มีนิดหน่อย ตามตารางวัตถุประสงค์การใช้เงิน กดที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ |
5.วิเคราะห์ราคา IPO ว่าแพงไปหรือไม่
หลักๆจะใช้ PE ครับ ว่าหลังจากที่ IPO มีหุ้นเข้ามาเพิ่มแล้ว PE จะเป็นเท่าไร ถ้าเหลือประมาณ 20 เท่าก็ยังพอมีหวัง ลุ้น Upside จากราคา IPO ซัก 50-100% ได้ สำหรับ IPO หุ้นตัวนี้อยู่ ที่ 1.95 บาทมีวิธีการคิดหา PE ดังนี้ข้อมูลรายชื่อผู้ถือหุ้นและจำนวนหุ้นี่จะ IPO กดที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ |
- ปัจจุบันมี 4000 ล้านหุ้น หลังจาก IPO แล้วจะมี 5100 ล้านหุ้น
- ราคา IPO 1.95 บาท
- คิดเป็นมูลค่าตลาด 1.95 x 5100 = 9945 ล้านบาท
- หุ้นตัวนี้เข้าทำการซื้อขายด้วยเกณฑ์ มูลค่าตลาดมากกว่า 5000 ล้าน
- PE หลัง IPO = มูลค่าตลาด / กำไร 4 ไตรมาศย้อนหลัง
= มูลค่าตลาด / (กำไรปี 2557 - กำไร 6 เดือนแรกปี 2557 + กำไร 6 เดือนแรกปี 2558)
= 9,945 / (916.157 - 395.394 + (- 928.939))
= 9,945 / -408.176
= -24 = n.a - PE คำนวณไม่ได้ เพราะกำไร 6 ไตรมาศย้อนหลังมันติดลบ
- ถ้าลองมโนว่าถ้ารอบวงจรเป็นปกติ ย้อนไปดูปี 2556 กำไร 1000 ล้านบาท
- PE หลัง IPO แบบจิตนาการ = มูลค่าตลาด / กำไร 4 ไตรมาศย้อนหลัง
- 9,945 / 1,000
= 9.945 เท่า
ดูแล้ว PE ที่ราคา IPO กรณีดีที่สุดคือ 9.945 เท่า เลวขายคือขาดทุน สำหรับคนที่จะซื้อก็วัดใจกันหน่อยครับ ถ้ามันใจว่าปีหน้ารอบมาแน่ก็ซื้อได้ ถ้ายังไม่ชัวก็ไม่ซื้อ
จะเห็นว่าแค่รู้ว่าข้อมูลอะไรอยู่ตรงไหน ก็ช่วยให้ชีวิตการลงทุนงายขึ้นเยอะครับ เดี๋ยววันซื้อขายแล้วจะมา update อีกที่ว่าผลจะเป็นอยางไร สู้ต่อไป TFG
อัพเดทผลประกอบการปี 2559
สรุปงบหุ้น TFG กดที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ |
ขอบคุณมากครับ :)
ตอบลบTHG IPO ราคาที่เหมาะสม ประมาณเท่าไหร่ครับ
ตอบลบเป็นประโยชน์กับมือใหม่อย่างผมมาก ขอบคุณครับ
ตอบลบ